"หุ้นไทย" ทะยาน! 1 เดือนเลือกตั้ง ลุ้นแตะ 1700 จุด

24 มี.ค. 2562 | 09:40 น.

"หุ้นไทย" ทะยาน! 1 เดือนเลือกตั้ง ลุ้นแตะ 1700 จุด

โบรกฯ มองต่างมุม บล.กสิกรไทยฯ เชื่อคนออกมาใช้สิทธิรอบนี้มากกว่า 80% ส่งผลเชิงบวกตลาดหุ้น บล.ทิสโก้ฯ คาด 1-2 เดือน หุ้นไทยมีโอกาสแตะ 1700 จุด


นายภาสกร ลินมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทยฯ กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และมีความเป็นไปได้สูง ว่า รอบนี้จะออกมาใช้สิทธิกันมาก ดูจากการเลือกตั้งล่วงหน้ามีผู้ออกมาใช้สิทธิสูงถึง 86-87% (จากครั้งที่แล้ว 75%) คาดว่า โดยรวมจะออกมาใช้สิทธิมากกว่า 80% ดังนั้น โอกาสที่จะเขย่าตลาดหุ้นน่าจะเป็นไปได้น้อย

"การเลือกตั้งเมื่อเดือน ธ.ค. 2550 มีพัฒนาการที่คล้ายกับรอบนี้ คือ เป็นการเลือกตั้งหลังการทำรัฐประหาร ดัชนีหุ้นไทยช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งปี 2550 ปรับลดลง 3% ขณะที่ รอบนี้ดัชนีหุ้นไทย 3 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้ง (22 ก.พ. - 15 มี.ค. 62) ปรับลดลง 2% และหลังเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ สถิติปี 2550 ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 5.5% ส่วนสัปดาห์ที่ 2 ปรับขึ้น 1% ก่อนจะติดลบถึง 5.8% ในช่วง 1 เดือน ครั้งนั้นเขย่าตลาดมาก แต่เลือกตั้งครั้งนี้ นํ้าหนักอยู่ที่การออกมาใช้สิทธิกันมาก ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดแรงเขย่าจึงไม่ใช่ง่าย"


"หุ้นไทย" ทะยาน! 1 เดือนเลือกตั้ง ลุ้นแตะ 1700 จุด

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทยฯ คาดว่า ตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้งจะตอบสนองในเชิงบวก ให้กรอบดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์แรก (25 - 29 มี.ค.) ที่ 1600-1675 จุด โดย ณ วันที่ 22 มี.ค. ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1646.29 จุด เพิ่มขึ้น 12.29 จุด หรือบวก 0.75%

สำนักวิจัย บล.ทิสโก้ฯ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มองในกรณีฐานที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดการเลือกตั้งครั้งนี้ (ประเมินโอกาส 50%) คือ ขั้วของพรรคเพื่อไทยและพรรคเครือข่าย รวมทั้งพรรคอนาคตใหม่ชนะเลือกตั้ง แต่ได้ ส.ส. รวมกันไม่ถึง 250 คน ทำให้ไม่สามารถโหวตเลือกนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ โดยการโหวตเลือกนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลคาดว่าจะตกไปอยู่อีกขั้วหนึ่ง ซึ่งมีอุดมการณ์ทางการเมืองอยู่ตรงข้ามกัน

ในกรณีฐานนี้ มอง SET Index ช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า มีโอกาสปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 1700 จุด ได้ในที่สุด แต่การแกว่งขึ้นจะขลุกขลักเล็กน้อย เพราะมีหลายขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดี ไม่ว่าผลคะแนนของแต่ละพรรคการเมืองจะออกมาเป็นอย่างไร - การจัดตั้งรัฐบาลจะจับขั้วกันอย่างไร เชื่อว่า บรรดาพรรคการเมืองต่าง ๆ จะสามารถจบกันได้ด้วยวิถีทางในรัฐสภา

ด้าน นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวงฯ กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นหลังการเลือกตั้งยังประเมินได้ยาก ขึ้นกับเงื่อนไขการยอมรับผลการเลือกตั้งหรือไม่

"ประเด็นหลัก ๆ คือ ผลออกมาแล้วคนส่วนใหญ่จะยอมรับหรือไม่ สมมติพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐจับมือกัน หรือ กรณีพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลจะมีปัญหาไหม ตลาดอยู่บนเงื่อนไขของการยอมรับผลการเลือกตั้งเป็นหลัก ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นในช่วง 2 สัปดาห์หลังการเลือกตั้ง จะทรง ๆ ซึม ๆ ผมมองว่า ตลาดอาจไม่ตอบสนองเชิงบวกเหมือนหลังการเลือกตั้งในอดีต ด้วยเงื่อนไขการเลือกตั้งไม่เหมือนเดิม"

อย่างไรก็ตาม หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็มีโอกาสสูงมากที่เงินทุนต่างชาติ หรือ ฟันด์โฟลว์ จะไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย หลังจากเข้าตลาดในภูมิภาคอาเซียนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว อีกทั้งสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยในมือต่างชาติ ปัจจุบันน้อยมาก (ม.ค. 62 อยู่ที่ 29.49% จำนวนนี้ถืออยู่ใน NVDR 6.83%) ฉะนั้น โอกาสที่ต่างชาติจะซื้อเพิ่มจึงมีมากกว่าขายออก บล.บัวหลวงฯมองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้ที่ 1735 จุด ปรับลงจากต้นปีที่ 1817 จุด



 

……………….

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,455 วันที่ 24 - 27 มี.ค. 2562 หน้า 01-02

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โบรกมองขึ้นค่าแรงไม่เกิดเร็ว หนุน CPALL/ AEONTS กระทบหุ้นกลุ่มรับเหมา
'บล.กสิกรไทย' มองหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (25-29 มี.ค.) มีแนวรับที่ 1,640 และแนวต้านที่ 1,660 จุด

 

"หุ้นไทย" ทะยาน! 1 เดือนเลือกตั้ง ลุ้นแตะ 1700 จุด