เอกชน-นักวิชาการผวา! เกิดสุญญากาศทางการเมือง ทำภาพรวมเศรษฐกิจแตะเบรก หวั่นทุนไทย-เทศขาดความเชื่อมั่น ด้านหอการค้าไทยประชุมนัดแรก 2 เม.ย. นี้ หารือทิศทางสถานการณ์การเมืองและยุทธศาสตร์ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้แบบไม่สะดุด
ดูจากไทม์ไลน์การจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งเสร็จยังต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ ทั้งการประกาศรายชื่อ ส.ส. อย่างเป็นทางการ ก่อนวันที่ 9 พ.ค. ต่อด้วยการเลือก ส.ว. การเปิดประชุมรัฐสภาและโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ไปจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าจะได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ภายในเดือน มิ.ย. นี้ จากเงื่อนเวลาดังกล่าว ทำให้ภาคเอกชนมีข้อกังวลว่าจะเป็นช่วงที่เกิดสุญญากาศทางการเมือง หากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไป หรือมีเหตุต้องยืดเยื้อด้วยประการใดก็ตาม
⁍ หอการค้าฯ หารือ 2 เม.ย. นี้
ต่อเรื่องนี้ นายชิงชัย หาญเจนลักษณ์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า เอกชนห่วงช่วงสุญญากาศทางการเมือง หากการจัดตั้งรัฐบาลยืดเยื้อ 3 เดือนนับจากนี้ คงมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย ทั้งการจัดตั้งรัฐบาลที่ชิงไหวชิงพริบกันของ 2 ขั้วพรรคการเมืองใหญ่ การจัดการเลือกตั้งใหม่ของ กกต. ในเขตที่มีการทุจริตเลือกตั้ง ที่อาจทำให้จำนวน ส.ส. และคะแนนเสียงเปลี่ยนไปจากเดิม และหากได้รัฐบาลที่ชัดเจนแล้ว อนาคตรัฐบาลใหม่จะมีความมั่นคงหรือมีเสถียรภาพหรือไม่
เพื่อตั้งรับกับช่วงสุญญากาศทางการเมือง ในวันที่ 2 เม.ย. นี้ ทางคณะกรรมการบริหารหอการค้าไทยชุดใหม่ (วาระปี 2562-2563) ที่มี นายกลินท์ สารสิน เป็นประธาน จะได้มีการประชุมกันเป็นนัดแรก การประชุมครั้งนี้ส่วนหนึ่งคงได้มีการหารือกันถึงทิศทางสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงยุทธศาสตร์ที่ภาคเอกชนจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้ยังเดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่สะดุด ท่ามกลางปัจจัยทางการเมืองของไทยที่ยังไม่มีความชัดเจน และเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลง และข้อกังวล คือ นักลงทุนต่างชาติที่กำลังจับตาทิศทางการเมืองของไทยอยู่ว่าจะเป็นอย่างไร หากไม่มั่นใจ ก็มีทางเลือกไปลงทุนประเทศอื่น เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย เป็นต้น
⁍ ทุนไทย-เทศ ชะลอดูท่าทีการเมือง
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ นักลงทุนไทยและต่างชาติต่างชะลอดูสถานการณ์ ส่วนหนึ่งกังวลว่า หากรัฐบาลใหม่ที่ไม่ใช่จากพรรคพลังประชารัฐจะยังมีการขับเคลื่อนนโยบาย หรือ โครงการต่าง ๆ ที่มีความสำคัญ เช่น โครงการอีอีซี หรือ โครงสร้างพื้นฐาน ให้มีความต่อเนื่องหรือไม่ หากรื้อโครงการใหม่อาจทำให้โครงการมีความล่าช้าออกไป อาจทำให้ทุนต่างชาติหนีไปลงทุนประเทศอื่นแทน
⇲ วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)
"อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฝ่ายไหนจะขึ้นมาเป็นรัฐบาล ขอให้ยึดผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก หากยังมีความขัดแย้ง บ้านเมืองไม่สงบและไปต่อไม่ได้ ประเทศอาจจะถอยหลังไป 20 ปี ซึ่งน่ากลัว นาทีนี้ใครมาเป็นรัฐบาลก็คงเหนื่อย เพราะเศรษฐกิจ-การค้าโลกไม่เอื้อ เราคงต้องโตจากการลงทุนและบริโภคภายในมากขึ้น"
⁍ ส.อ.ท. จี้เร่งจัดตั้งรัฐบาล
สอดคล้องกับ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการในเวลานี้ คือ รีบจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด อย่าปล่อยให้เกิดสุญญากาศนานเกินไป หน้าที่ของ กกต. จะต้องรีบสรุปตัวเลขออกมา เพราะยิ่งช้ามาก ก็มีแต่จะส่งผลให้เศรษฐกิจชะงักงัน ซึ่งเวลานี้เริ่มมองเห็นว่ามีบางหน่วยงานเกียร์ว่าง และรอว่าใครจะขึ้นมาเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลและรอดูว่านโยบายจะเป็นอย่างไร
"หลังเลือกตั้งจะเห็นว่า ตัวเลขของพรรคแนวร่วม 2 ฝั่ง มีคะแนนใกล้เคียงกันมากและส่อเค้าจะยืดเยื้อ มีเรื่องการฟ้องร้อง มีเรื่องใบเขียว ใบแดง ยิ่งยืดเยื้อมากเท่าไหร่ นักลงทุนไทย-เทศจะเกิดความไม่เชื่อมั่น โครงการลงทุนขนาดใหญ่ก็ต้องชะลอตัวเพื่อรอดูสถานการณ์ ขณะที่ ส่งออกก็เจอแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก เช่น สงครามการค้า เบร็กซิท ทั้งหมดนี้ส่งผลให้บรรยากาศการค้าโลกชะลอตัวลง"
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนอยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้นำไปสู่การมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้ และสิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็น คือ รัฐบาลผสมที่มีเสถียรภาพ มีที่นั่งรวมกัน 300 ที่นั่ง เพราะในภายใต้กติกาของรัฐธรรมนูญใหม่ ถ้าเสียงปริ่ม ๆ มีโอกาสที่จะทำให้ ส.ส. ในสภามีโอกาสพลิกไป-มาได้
"เวลานี้ เศรษฐกิจโลกอยู่ในจุดที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่ถ้าการเมืองภายในประเทศเข้มแข็ง สานต่อโครงการอีอีซี มีการสนับสนุนท่องเที่ยวเมืองรอง เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการเหล่านี้ก็น่าจะปลุกเศรษฐกิจภายในของเราได้"
⁍ รับมือบริหารความเสี่ยง
นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ระบุว่า ต้องบริหารความเสี่ยงในช่วงสุญญากาศการเมือง โดยคงชะลอขึ้นโครงการช่วงครึ่งปีแรกออกไปจนกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ เนื่องจากกระทบความเชื่อมั่น อารมณ์คนส่วนใหญ่ยึดโยงกับการเมืองค่อนข้างรุนแรง หากผลิตจำนวนหน่วยออกมาตามแผน แต่กลับไม่มีคนซื้อ เกรงว่าจะตกที่นั่งลำบาก ประกอบกับมาตรการสินเชื่อใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทยจะบังคับใช้ วันที่ 1 เม.ย. 2562 ในฐานะนายกสมาคม ยืนยันว่า คงต้องใช้ไปก่อน แม้จะกระทบกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ต้องหาเงินวางดาวน์เพิ่ม แต่หากในระยะยาวพบว่า ไม่มีการเก็งกำไร
นายนัตดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ และไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนของการจัดตั้งรัฐบาล ในแง่ของการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวก็ยังคงเป็นไปตามปกติ เพราะการเดินทางท่องเที่ยวในวันนี้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตไปแล้ว และถ้ามีผลกระทบกับการท่องเที่ยวก็จะกระทบอยู่ราว 1 เดือน เมื่อคนเข้าใจก็กลับมาเที่ยวกันต่อ ทั้งไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศ ก็มั่นใจว่า ทีมเศรษฐกิจของแต่ละพรรคก็จะส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,457 วันที่ 31 มี.ค. - 3 เม.ย. 2562 หน้า 01+15
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● 'พิชัย' ยกประวัติศาสตร์ "คะแนนสูงสุด" ไม่ได้ตั้งรัฐบาล
● 'สวนดุสิตโพล' ชี้! ประชาชนวิตก "เลือกตั้ง" ไม่โปร่งใส
บทความน่าสนใจ :
● 'เพื่อไทย' พล่าน! ต่อสายล็อบบี้พรรคเล็กร่วมรัฐบาล
● "2 ขั้ว" ชิงนายกฯ เปิดศึกแย่งพรรคเล็ก