โบอิ้งยอมรับแล้ว ระบบบกพร่องมีส่วนทำเครื่องบิน 737 แม็กซ์โหม่งโลก

05 เม.ย. 2562 | 05:16 น.

สื่อต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2562 ว่า นาย เดนนิส มุยเล็นเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท โบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องยนต์และอากาศยานรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่า  การป้อนข้อมูลที่ผิดพลาดเข้าสู่ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติที่เรียกว่า  MCAS (Maneuvering Characteristics Augmentation System) ของเครื่องบิน 737 แม็กซ์ 8 มีส่วนทำให้เครื่องบินรุ่นดังกล่าวตกถึง 2 ลำในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา

เดนนิส มุยเล็นเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท โบอิ้ง

อุบัติเหตุเครื่องบินตกดังกล่าวเกิดขึ้นกับสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ 302 ซึ่งตกลงหลังจากเพิ่งทะยานขึ่นสู่ท้องฟ้าได้เพียงไม่กี่นาทีในวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทั้งผู้โดยสารและลูกเรือ 157 คนเสียชีวิตทั้งหมด และก่อนหน้านั้นในเดือนตุลาคม 2561 สายการบินไลออน แอร์ เที่ยวบินที่ 610 ก็ตกลงในทะเลหลังเพิ่งขึ้นบินได้ไม่นานเช่นกัน เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด 189 คน เจ้าหน้าที่สืบสวนพบความคล้ายคลึงกันอย่างชัดเจนในอุบัติเหตุทั้ง 2 ครั้งดังกล่าว และเชื่อว่าเป็นเพราะระบบ MCAS ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติ ป้องกันการสูญเสียแรงยกบริเวณปีกเครื่องบิน เกิดการทำงานขัดข้อง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่การบินพลเรือนของเอธิโอเปียยังยืนยันผลการสอบสวนว่า เหตุการณ์เครื่องบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์สตกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของนักบิน

  

ซีอีโอของโบอิ้งระบุในแถลงการณ์และคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ผ่านทางทวิตเตอร์ของบริษัทโบอิ้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (4 เม.ย.) ว่า “ประกอบกับข้อมูลของรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับผลการสอบสวนกรณีเครื่องบินสายการบินเอธิโอเปียเที่ยวบิน 302 ตกนั้น ดูเหมือนว่าระบบ MCAS ในทั้ง 2 เที่ยวบิน จะทำงานเพื่อตอบสนองต่อข้อมูลการทำมุมปะทะ (องศาของจมูกเครื่องบิน) ที่ไม่ถูกต้อง” 

 

ทั้งนี้ ระบบ MCAS จะอ่านมุมปะทะของเครื่อง 737 แม็กซ์ ด้วยเซ็นเซอร์ที่ปลายจมูกเครื่องบิน หากจมูกเครื่องบินเชิดเกินไประบบจะควบคุมส่วนหางเพื่อให้เครื่องบินรักษาระดับ และป้องกันอาการสตอลล์ หรือการสูญเสียแรงยกบริเวณปีกเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สืบสวนอ้างว่า เซ็นเซอร์ดังกล่าวอาจให้ข้อมูลที่ผิดพลาด ทำให้ระบบทำงานไปตามข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้เครื่องบินดิ่งลง

จุดที่เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์สตกเมื่อวันท่ี 10 มีนาคม 2562

การสอบสวนพบว่า นักบินของทั้ง 2 เที่ยวบินที่ตกลง ประสบปัญหาในการพยายามควบคุมการบินหลังจากที่ระบบอัตโนมัติ MCAS เริ่มทำงานและกดหัวเครื่องบินต่ำลง รัฐมนตรีคมนาคมของเอธิโอเปียยืนยันว่า นักบินได้ทำทุกขั้นตอนตามคู่มือการบินของโบอิ้ง ซ้ำๆหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้  อย่างไรก็ตาม ทางการเอธิโอเปียไม่ได้กล่าวโทษว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากระบบ MCAS ของโบอิ้ง แต่กล่าวว่า ต้องมีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดก่อนจะอนุญาตให้เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ทุกลำที่ถูกระงับการบินมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม สามารถนำขึ้นบินได้อีกครั้ง

 

ซีอีโอของโบอิ้งยอมรับว่า เป็นความรับผิดชอบของบริษัทที่จะต้องขจัดความเสี่ยงให้หมดไป เทคโนโลยีระบบดังกล่าว (MCAS) เป็นของบริษัทและโบอิ้งก็รู้ดีว่าจะต้องทำอย่างไร บริษัทกำลังปรับปรุงซอฟต์แวร์อย่างถี่ถ้วนและเป็นขั้นตอน กระบวนการรับรองมาตรฐานและนำมาใช้จริงน่าจะใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์

 

ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายเดือนมีนาคม โบอิ้งได้ชี้แจงผ่านเว็บไซต์ของบริษัทเกี่ยวกับการอัพเดตซอฟต์แวร์ดังกล่าว โดยเพิ่มมาตรการ 3 ข้อเพื่อป้องกันระบบป้องกันเครื่องเสียแรงยก (MCAS) ไม่ให้ทำงานจนนักบินควบคุมเครื่องไม่ได้ มาตรการเหล่านั้นได้แก่  1) MCAS จะเทียบค่ามุมปะทะ (angle of attack - AOA) จากเซ็นเซอร์สองตัวเสมอ หากค่าที่อ่านได้ต่างกันเกิน 5.5 องศา ระบบจะไม่ทำงาน แต่จะแจ้งเตือนนักบินแทน 2) เมื่อ MCAS เปิดทำงานแล้ว จะส่งคำสั่งกดหัวเครื่องลงเพียงครั้งเดียว และ 3) MCAS จะไม่กดหัวเครื่องลงเกินกว่าที่นักบินจะต้านด้วยคันบังคับได้ นักบินสามารถโต้การทำงานของ MCAS ได้เสมอ

โบอิ้งยอมรับแล้ว ระบบบกพร่องมีส่วนทำเครื่องบิน 737 แม็กซ์โหม่งโลก