ก.พลังงาน รับมือใช้ "ไฟหน้าร้อน" พุ่ง 4.6%

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน คาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดปีนี้ (พีค) อยู่ที่ 35,889 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 4.6% จากปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน เม.ย. - ต้น พ.ค. นี้ ที่อุณหภูมิ 42-43 องศาเซลเซียส เทียบกับปี 2561 พีคอยู่ที่ระดับ 34,317 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2561 เวลา 13.51 น. ที่อุณภูมิ 33 องศาเซลเซียส โดย "สถานการณ์การผลิตไฟฟ้า" ปัจจุบันมีกำลังผลิตในระบบไฟฟ้าไทยอยู่ที่ 56,034 เมกะวัตต์

⇲ สราวุธ แก้วตาทิพย์

โดยการเตรียมความพร้อมรับมือกับพีคไฟฟ้าปีนี้ ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) มีการประชาสัมพันธ์มาตรการ 4 ป. ประหยัดพลังงาน ขณะที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำลังผลิตสำรองพร้อมจ่ายเพียงพอสำหรับรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินอาจเกิดขึ้น รวมทั้งได้ประสานงานกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในการเพิ่มความสามารถในการส่งเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติให้มีความเพียงพอต่อความต้องการใช้ผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม กรณีแหล่งยาดานาในเมียนมามีแผนหยุดการผลิตบางส่วนเพื่อปรับปรุงและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ ประจำปีวันที่ 11-17 เม.ย. 2562 ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในประเทศ เนื่องจาก ปตท. และ กฟผ. มีแผนรองรับแล้ว

นายจรรยง วงศ์จันทร์พงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการปฏิบัติการควบคุมระบบ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมในส่วนของระบบผลิตไฟฟ้า กฟผ. บริหารจัดการโรงไฟฟ้าในระบบ ทั้งโรงไฟฟ้าของ กฟผ. โรงไฟฟ้า IPP และ SPP ให้มีการทำงานบำรุงรักษาเท่าที่จำเป็น และขอความร่วมมืองดบำรุงรักษานอกแผนที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนตลอดช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือน มี.ค. - พ.ค. ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงเพื่อรักษาความมั่นคง

โดยในช่วงฤดูร้อนปีนี้จะมีกำลังผลิตสำรองพร้อมจ่ายคิดเป็น 20% ของกำลังการผลิตทั้งหมด เพียงพอสำหรับรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งได้ประสานงานกับ ปตท. ในการเพิ่มความสามารถในการส่งเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติให้มีความเพียงพอต่อความต้องการใช้ผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของระบบส่งไฟฟ้าของ กฟผ. มีความพร้อมใช้งานเต็มความสามารถ โดยงดทำงานบำรุงรักษาสถานีไฟฟ้าและอุปกรณ์ในระบบส่งที่มีความสำคัญ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการส่งไฟฟ้าในช่วงดังกล่าว

นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท. เปิดเผยว่า แหล่งยาดานาในเมียนมามีแผนหยุดการผลิตบางส่วนเพื่อปรับปรุงและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ ประจำปีวันที่ 11-17 เม.ย. 2562 ไม่ส่งผลกระทบต่อเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของไทย เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ปตท. และ กฟผ. เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว

โดยเบื้องต้น ปตท. เจรจาให้ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติในแหล่งอื่นดำเนินการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางท่องเที่ยว กลับบ้านต่างจังหวัด ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศโดยรวมอยู่ในระดับลดลง ส่งผลให้ กฟผ. ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลเพื่อผลิตไฟฟ้าทดแทน รวมทั้งไม่กระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าและไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ก๊าซ ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคขนส่งแต่อย่างใด

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ. มีมาตรการ 4 ป. "ปิด-ปรับ-ปลด-เปลี่ยน" ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อช่วยลดพีคไม่ให้สูงขึ้นจนทำสถิติรอบใหม่ จนเกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งมาตรการลดพีคไฟฟ้าเป็นการปรับเปลี่ยนปริมาณและลักษณะการใช้ไฟฟ้าของผู้ใช้เพื่อให้สมดุลกับการผลิตไฟฟ้า