บลจ.ไทยพาณิชย์ จ่ายปันผล กองหุ้นญี่ปุ่น-หุ้นผันผวนต่ำ

23 เม.ย. 2562 | 11:04 น.

บลจ.ไทยพาณิชย์ เตรียมจ่ายปันผล 2 กองหุ้นนอก 24 เม.ย.นี้ แนะจับตาราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และผลกำแพงภาษี ยังเสี่ยงต่อราคาตลาดหุ้นญี่ปุ่น

               นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัดเปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนหุ้นที่ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นและกองทุนหุ้นผันผวนต่ำ พร้อมกันทั้ง 2 กองทุนในวันที่ 24 เมษายน 2562  คือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น(ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBNK225D)  สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2561 - วันที่ 31 มีนาคม 2562 และกำไรสะสม จ่ายปันผลในอัตรา 0.2398 บาทต่อหน่วย ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 9 รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้น 3.0111 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อ 11 ต.ค.2556)

บลจ.ไทยพาณิชย์ จ่ายปันผล กองหุ้นญี่ปุ่น-หุ้นผันผวนต่ำ

               ส่วนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้น LOW VOLATILITY (SCBLEQ) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2561- 31 มีนาคม 2562 และกำไรสะสม จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1972 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 6 รวมจ่ายปันผล 1.0310 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อ 28 เม.ย. 2559) โดยมีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 11.45% (ข้อมูล ณ วันที่ 18 เมษายน 2562) 

“ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2561-31 มีนาคม 2562 ดัชนี Nikkei225 โดยรวมปรับตัวลดลง สาเหตุหลักๆ มาจากแรงกดดันจากนโยบายกีดกันการค้าจากสหรัฐฯ ที่ตัดสินใจเพิ่มกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีน รวมถึงการพิจารณาตั้งกำแพงภาษีบนสินค้าประเภทรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของญี่ปุ่น ประกอบกับผลประกอบการของธุรกิจจดทะเบียนภในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นที่ออกมาแย่กว่าคาด ราคาน้ำมันที่ลดลงและแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกลดลง ทำให้ ดัชนี Nikkei225 ลดลง 20%”

               อย่างไรก็ตาม ช่วงปี 2562 ดัชนีฯสามารถกลับตัวขึ้นมาได้ประมาณ 10% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการคลายความกังวลเรื่องความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึงท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีท่าทีเข้มงวดน้อยลง อีกทั้งเรื่องนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นเองที่ยังคงมาตรการผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง  

ส่วนระยะถัดไปคาดว่า การที่อัตราเงินเฟ้อในประเทศหลักต่างๆ อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ธนาคารกลางจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวต่อไปได้ ซึ่งในภาวะเช่นนี้จะเป็นภาวะที่เอื้อให้การลงทุนในตราสารทุนที่ยังสามารถจะสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อนักลงทุนได้ โดยปัจจัยที่แนะนำให้นักลงทุนจับตามองคือ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และผลการพิจารณากำแพงภาษีสินค้าประเภทรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อราคาตลาดหุ้นญี่ปุ่นโดยรวมได้

บลจ.ไทยพาณิชย์ จ่ายปันผล กองหุ้นญี่ปุ่น-หุ้นผันผวนต่ำ