ญี่ปุ่นเฉลิมฉลองการขึ้นรัชสมัย “เรวะ” ซึ่งเริ่มขึ้นพร้อมกับการเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 โดยสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะพระชนมายุ 59 พรรษา ทรงสืบพระราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศของญี่ปุ่นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิองค์ที่126 สืบต่อจากพระราชบิดาคือ สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะที่ทรงสละพระราชบัลลังก์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา
ในพระราชพิธีสืบราชบัลลังก์เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ซึ่งมีขึ้นในพระราชวังอิมพีเรียล กรุงโตเกียว เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นญี่ปุ่น มหาดเล็กได้อัญเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น อันประกอบด้วยตราประจำแผ่นดิน พระราชลัญจกร พระแสงดาบ พระอัญมณี และพระสายสร้อยสังวาล ถวายแด่สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ โดยมีเจ้าชายฟุมิฮิโตะ รัชทายาทลำดับต่อไปและพระบรมวงศานุวงศ์ที่เป็นบุรุษ ผู้แทนรัฐบาล นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และคณะรัฐมนตรีร่วมเป็นสักขีพยาน ส่วนสมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะและจักรพรรดินีพระพันปีหลวงมิชิโกะ รวมถึงสมาชิกราชวงศ์สตรีไม่ได้เข้าร่วม
สำนักข่าวท้องถิ่นของญี่ปุ่นรายงานว่า เครื่องราชกกุธภัณฑ์สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น ถือเป็นสมบัติแห่งชาติ ประกอบด้วย 3 สิ่งคือพระแสงดาบ พระอัญมณี และพระฉาย (กระจก) แต่พระฉายที่เรียกขานว่า “ยะตะ โนะ คะงะมิ” กระจกศักดิ์สิทธิ์แปดด้าน อายุกว่า 1,000 ปี มิได้นำมาถวายในพระราชพิธี แต่ถูกเก็บรักษาไว้ในศาลเจ้าอิเซะ ในจังหวัดมิเอะ ขณะที่พระแสงดาบ “คุซะนะงิ โนะ ซึรุงิ” และพระอัญมณี “ยะซะคะนิ โนะ มะงะทะมะ” ของจริงถูกเก็บรักษาไว้ในศาลเจ้าอัตสุตะ จังหวัดนาโงยะ และในพระราชวังอิมพีเรียล กรุงโตเกียว ตามลำดับ
จากนั้นประมาณ 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะมีพระบรมราโชวาทอย่างเป็นทางการครั้งแรกในท้องพระโรงมัตสึโนะมะ ใจความโดยสรุปว่า จะยังทรงคงความใกล้ชิดกับพสกนิกรเฉกเช่นกับที่พระราชบิดาทรงเคยทำมา และจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในฐานะสัญลักษณ์ของประเทศ และทรงหวังถึงความผาสุกของปวงชน ความก้าวหน้าของประเทศ และสันติสุขของโลก ในพระราชพิธีขั้นสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่นเข้าร่วมทั้งหมด
ทั้งนี้ ในวันที่ 4 พ.ค. สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะและจักรพรรดินีมาซาโกะ ทรงมีกำหนดเสด็จออกพระราชวังอิมพีเรียล เพื่อทักทายพสกนิกรเป็นครั้งแรก รวม 6 ช่วงเวลา เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ส่วนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นทางการ จะมีขึ้นในวันที่ 22 ต.ค. เชิญแขกผู้ทรงเกียรติจาก 200 ประเทศเข้าร่วม
ส่วนบรรยากาศการเฉลิมฉลองในญี่ปุ่นนั้น พบว่า ตามสำนักเทศบาลในเขตต่างๆ มีคู่รักหนุ่มสาวจำนวนมากเดินทางยื่นจดทะเบียนสมรสเนื่องในโอกาสมงคลขึ้นรัชสมัยเรวะ นอกจากนี้ ยังมีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเช่าเครื่องบินเหมาลำขึ้นดูพระอาทิตย์แรกของรัชสมัยใหม่เหนือภูเขาไฟฟูจิ หรือแหลมเนมุโระ เขตตะวันออกสุดของประเทศ ในจังหวัดฮอกไกโด มีชาวญี่ปุ่นกว่า 370 คน รอดูแสงแรกของรัชสมัยเรวะ