‘นายณ์ เอสเตท’ แตกต่าง นอกกรอบ...

14 พ.ค. 2562 | 03:30 น.

สัมภาษณ์

จากผู้ปลุกปั้นยูนิเวนเจอร์ สู่โครงการมิกซ์ยูสชื่อดังปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์บนถนนวิทยุ นับถึงวันนี้ชื่อของอรฤดี ระนองสั่งสมประสบการณ์ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทยมานานถึง 13 ปี โดยบทบาทล่าสุด สวมเสื้อผู้บริหาร บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด บริษัทลูกในเครือ นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นเรื่องท้าทาย ในนามผู้เล่นเล็ก ท่ามกลางกระแสการแข่งขันรุนแรง ฝ่าด่านความยากเรื่องปัจจัยที่ดินแตกต่าง นอกกรอบ แต่มีความเป็นไปได้กลายเป็นยุทธศาสตร์หลักในการดำเนินธุรกิจฐานเศรษฐกิจเจาะโปรเจ็กต์ ลิฟวิ่ง ซีเนียร์ ภูเก็ต พร้อมเป้าหมายสูงสุด และโมเดิลธุรกิจ สไตล์ นายณ์ เอสเตท

รุ่นใหญ่มองอสังหาฯ

นางอรฤดี กล่าวว่า เชื่อมั่นตลาดอสังหาฯไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะพบว่าแม้ในช่วงที่มีสัญญาณชะลอตัวของเศรษฐกิจ ประเทศมีวิกฤต การณ์ทางการเมือง กลับเป็นไม่กี่กลุ่มธุรกิจที่ยังเดินต่อได้ มีวัฏจักรการขึ้น-ลงอย่างน่าสนใจ ไม่ต่างจากขณะนี้ ที่ยอมรับว่า เอกชนต่างกังวลต่อสถานการณ์ในประเทศ ด้วยความไม่ชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาล เศรษฐกิจหดตัว ซัพพลายในตลาดค้างรอระบายอีกมาก แต่อย่างไรก็ตาม กลายเป็นจังหวะการปรับตัวและประคอง เตรียมความพร้อม เพื่อความได้เปรียบ เมื่อโอกาสมาถึง เพราะเชื่อว่าดีมานด์ในตลาดยังมีอีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนมีเงิน (ตลาดกลาง-บน) ที่เมื่อมีความจำเป็นต้องซื้อ และเกิดความมั่นใจกับสภาพคล่องของตนเอง ขณะนั้นๆ จะนำเงินออกมาใช้ และเป็นโอกาสของธุรกิจอสังหาฯ

‘นายณ์ เอสเตท’ แตกต่าง นอกกรอบ...

อรฤดี ณ ระนอง

ที่ดินของจำเป็น

ทำเลและโลเกชันคือหลักในการแข่งขันของอสังหาฯ ยุคนี้ แต่กลายเป็นปัจจัยที่ยากและเหนือการควบคุมมากสุดสำหรับผู้พัฒนา ซึ่งไม่ใช่รายใหญ่อย่างเรา เพราะราคาที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ หายาก การแข่งขันแย่งซื้อของแต่ละแปลงเมื่อทุนใหญ่เข้ามา รายเล็ก-รายกลาง แทบไม่มีโอกาส แต่อีกนัยเปรียบเป็นเรื่องของบุญวาสนา เพราะบางครั้งการได้มาของที่ดินบางแปลง ตัวเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญทั้งหมด แต่กลับเป็นความพอใจจะขายของเจ้าของที่ดินนั้นๆ ซึ่ง นายณ์ เอสเตท เคยพิสูจน์มาแล้วกับการได้มาของที่ดินแปลงสวยศรีบุญ เรือง ศาลาแดงผ่านแนวคิดการพัฒนาโครงการที่มีความแตกต่าง หัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจสไตล์ นายณ์ เอสเตท

แผน-กลยุทธ์ธุรกิจ

แตกต่าง นอกกรอบ แต่มีความเป็นไปได้คือภาพที่บริษัทสื่อสารต่อลูกค้า ผ่านภาพจำโครงการแรกเมื่อ 6 ปีก่อน กับโครงการบ้านเดี่ยวพาร์ค พรีว่า พระราม 9” ซึ่งถือเป็นความท้าทายแรก แต่บรรลุเป้าหมาย ผู้นำปลุกตลาดบ้านแพงใจกลางเมือง ดึงกลุ่มลูกค้าระดับบน และอยู่ระหว่างการขายควอเตอร์ คอลเล็คชั่นใน 3 ทำเล (ทองหล่อ, สุขุมวิท31, สุขุมวิท 39) พร้อมด้วย ไลฟ์สไตล์ คอนโดฯ บนทำเลสุขุมวิท 26 ขณะที่ปี 2562 นั้นมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 4 โครงการ ทั้งรูปแบบร่วมทุนและพัฒนาเอง รวมมูลค่า 8 พันล้านบาท เป้ายอดขายมากกว่า 3 พันล้านบาท ทั้งหมดถูกพัฒนาด้วยแนวคิดหลัก ของการจำกัดความตัวเองว่า เป็นบูติก ดีเวลอปเปอร์หรือ ผู้พัฒนารายเล็กแต่นำสมัย ให้ความสำคัญกับดีไซน์ รูปแบบการใช้สอย โครงสร้างที่แตกต่างไปจากตลาด ใส่ใจกับทุกความหลากหลายของความต้องการลูกค้า ทำให้เราเริ่มเป็นที่รู้จักอสังหาฯวันนี้ ไม่ได้ง่าย ยิ่งทำเลไม่ดีมากพอ ก็ต้องหาสิ่งที่เหนือกว่า โปรดักต์ และรายละเอียดที่ต่างออกไปมาเป็นตัวแข่งขัน 

ก้าวต่อไปของนายณ์

ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ (1 ใน 4 โครงการเตรียมเปิดตัว) “ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง ภูเก็ตผ่านการร่วมทุนบนที่ดิน 30 ไร่ เชิงเขาหาดกมลา จับเทรนด์ที่อยู่อาศัยของกลุ่มวัยเกษียณที่มีกำลังซื้อ ผสมผสานคอนโดฯ, วิลล่า ชูจุดต่างผ่านการดูแล ประสานงานด้วยโอเปอเรเตอร์ เชนจ์ชื่อดังโดยบริษัทต่างชาติ ราคาขาย 1.5-1.8 แสนบาทต่อตารางเมตร เพื่อจับกลุ่มชาวต่างชาติ ยุโรป, ฮ่องกง วัยเกษียณ คาดจะเป็นอีก 1 โครงการที่ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อให้กับบริษัท

เป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า คงมีความเติบโตทั้งในแง่จำนวนโครงการและคุณภาพที่มากขึ้น แบรนด์เป็นที่รู้จัก จิ๋วแต่ต้องแจ๋ว

 

หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,469 วันที่ 12-15 พฤษภาคม 2562

                                                       ‘นายณ์ เอสเตท’ แตกต่าง นอกกรอบ...