ทุนจีนรุกซื้อ-เช่า-ลงทุน คอนโดฯ ยันมิกซ์ยูส

17 พ.ค. 2562 | 00:00 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ส.ค. 2562 | 12:09 น.

เป็นที่ทราบกัน วันนี้ลูกค้าชาวจีนมีบทบาทในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยค่อนข้างมาก ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยชนา กีรติยุตวงศ์, ธนพร ตั้งตระกูล และมณีรัตน์ ก้องเสียง เจาะลึกภาวะการซื้อและลงทุนของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว พบว่า ในปี 2561 การซื้อที่อยู่อาศัย(คอนโดมิเนียม)ขยายตัวจากปี 2560 ค่อนข้างมาก สะท้อนจากมูลค่าเงินโอนเพื่อซื้ออาคารชุดในไทยของชาวจีนปี 2561 อยู่ที่ 39,178 ล้านบาท เร่งขึ้นจากปี 2560 ที่ 23,621 ล้านบาท ขยายตัว 65.9% จากปีก่อน คิดเป็น 43% ของมูลค่าเงินโอนเพื่อซื้ออาคารชุดของชาวต่างชาติและ 12% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดไทยทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ 9%

ทุนจีนรุกซื้อ-เช่า-ลงทุน  คอนโดฯ ยันมิกซ์ยูส

ด้านการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของผู้ประกอบการชาวจีน ซึ่งยังมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับทุนญี่ปุ่น แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยนิยมร่วมทุนกับผู้ประกอบการไทยที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่องและความสามารถในการแข่งขัน จากการสำรวจโครงการเปิดขายใหม่ของบริษัท Agency for Real Estate Affairs (AREA) ที่พบว่าโครงการร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยและจีนในปี 2561 มีมูลค่าโครงการเปิดขายใหม่รวมกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5-10% ของมูลค่าโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมดในปี 2561 เพิ่มขึ้นจากปี 2559 และปี 2560 ที่มีสัดส่วนน้อยกว่า 5%

 

นอกจากซื้อที่อยู่อาศัยแล้ว ชาวจีนยังสนใจเช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน และการเช่าพื้นที่ค้าปลีก แม้ในปัจจุบันความต้องการจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังมีจำนวนไม่มากนัก เพื่อประกอบธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในกลุ่มมิกซ์ยูส หรือโครงการที่มีทั้งที่อยู่อาศัยและพื้นที่พาณิชยกรรมในโครงการเดียว ผ่านการร่วมทุนกับผู้ประกอบการไทย ซึ่ง JLL ได้สำรวจมูลค่าการลงทุนของชาวจีนในปี 2561 อยู่ที่ประมาณ 18,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,700 ล้านบาท ในปี 2560

ปัจจุบันแม้ทุนจีนยังไม่ได้ส่งผลกระทบในด้านลบต่อตลาดอสังหาฯ ของไทย แต่ผู้ประกอบการต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,470 วันที่ 16-18 พฤษภาคม 2562

ทุนจีนรุกซื้อ-เช่า-ลงทุน  คอนโดฯ ยันมิกซ์ยูส