ทำไมองค์กรต้อง Re-Skill พนักงาน

20 พ.ค. 2562 | 02:30 น.

พูดกันเยอะมากกับการ Re-Skill หรือการอัพเกรดทักษะของพนักงานองค์กร แต่พนักงานบางคน หรือแม้แต่ผู้บริหารหลายๆ คน ก็ยังไม่ตระหนักรู้ว่าภัยกำลังมาถึงตัว หากไม่ทำคือ องค์กรของคุณถอยหลัง และอาจต้องออกจากธุรกิจไปในที่สุด ซึ่งการ Re-Skill นี้ไม่ได้ทำแค่เฉพาะพนักงานเก่าที่มีอยู่ หรือทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่การ Re-Skill ต้องทำเรื่อยๆ การพัฒนาและอัพเกรดทักษะมนุษย์ต้องทำอย่างต่อเนื่อง มิเช่นนั้น AI จะเข้ามากินพื้นที่ทำงานของคุณไปเรื่อยๆ ทำไมองค์กรต้อง  Re-Skill พนักงาน

“ดร.กอบกฤตย์ วิริยะยุทธการ” กรรมการสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT) ได้พูดในงาน “อินเตอร์แมค-ซับคอนไทยแลนด์ 2019” (INTERMACH & SUBCON Thailand 2019) ที่จัดขึ้นร่วมกับงาน MTA 2019 เกี่ยวกับ “AI ในอุตสาหกรรมไทย” ว่า อุตสาหกรรมไทยเริ่มตื่นรู้ (Aware) แล้ว สำหรับเรื่องของเอไอ หรือระบบอัตโนมัติ ที่นำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมอย่างโรงงาน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงาน ลดต้นทุน และลดปัญหาด้านแรงงาน ยิ่งโรงงานที่สร้างขึ้นใหม่ในยุคนี้ ส่วนใหญ่เป็นระบบอัตโนมัติเกือบหมด

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ...สาเหตุเป็นเพราะผู้ประกอบการยอมที่จะจ่ายแพงในครั้งแรก เพื่อลดปัญหาต่างๆ อย่างที่บอกไปแล้ว คือ ปัญหาแรงงาน การควบคุมคุณภาพ ความแม่นยำของงาน และหากสามารถพัฒนาระบบของตัวเองได้ดี นั่นคือสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในระยะยาว

ระบบเอไอ หรือการทำระบบออโตเมชันในโรงงาน เราเห็นมานานแล้ว เดิมโรงงานจะใช้เครื่องจักรเข้ามาแทนที่คนประมาณ 80% แต่ในอนาคต คนที่จะเข้ามาทำงานในโรงงาน จะเหลือสัดส่วนแค่ 1% ส่วนที่เหลือจะเป็นเครื่องจักรเป็นเอไอทั้งหมด คนจะมีหน้าที่เพียงควบคุม กดปุ่มการทำงานของเครื่องจักร

ต่อไปงานที่เกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพ งานที่ทำซํ้าๆ จะไม่ต้องการคนอีกต่อไป และที่น่ากลัวมากกว่านั้นคือ ขณะนี้เครื่องจักรยังต้องการคนมาเทรนดาต้าให้ แต่เมื่อเครื่องจักรสามารถประมวลผล และบริหารจัดการดาต้าได้เองหมด เมื่อนั้นคือ คนไม่มีความหมาย

หากคนยังอยากทำงาน และต้องการอยู่รอดในตลาดแรงงาน ก็ต้องไปสร้างทักษะใหม่ๆ คนจะทำงานซํ้าๆ เก่าๆ ไม่ได้ และต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นมนุษย์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ เป็น Creative Worker หรือ Smart Worker หนีตัวเองไปจากแรงงานขั้นพื้นฐานให้ได้

อีกหนึ่งแนวโน้มที่น่ากลัวมาก สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ยอมอัพเกรดทักษะการทำงานคือ หุ่นยนต์หรือเอไอ กำลังคืบคลานเข้ามาแทนที่งานด้านบริการ ซึ่งเทรนด์นี้มาแรงมากทั้งในจีนและญี่ปุ่น ที่เห็นชัดๆ คือ หุ่นยนต์ต้อนรับในหลายๆ องค์กรของญี่ปุ่น หุ่นยนต์จะเข้ามาทำหน้าที่ต้อนรับ แจ้งได้เลยว่า คนที่ต้องการมาติดต่อคือใคร สามารถให้วิดีโอคอลล์หรือเทเลคอนเฟอเรนซ์ถึงตัวผู้ที่ต้องการติดต่อได้เลย หรือหากอยากได้ข้อมูล ก็สามารถแชตถามได้ทันที โดยหุ่นยนต์เหล่านี้จะไม่หน้าหงิกหน้างอ หรือทำนํ้าเสียงอารมณ์เสียใส่ผู้มาเยือน

หรือจะเป็นหุ่นยนต์ที่มาในรูปแบบตู้คีออสของแมคโดนัลด์ ที่เพิ่มความสะดวกและมีความเป็นส่วนตัวในการสั่งอาหาร ลูกค้าสามารถใส่รายละเอียดที่ต้องการป้อนให้กับตู้คีออสได้ โดยไม่ต้องเสียอารมณ์กับพนักงานที่เต็มใจต้อนรับบ้าง ไม่เต็มใจต้อนรับบ้าง

แนวโน้มของตลาดเอไอกำลังคืบคลานจากโลกฝั่งตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกา เข้ามาสู่เอเชีย ซึ่งขณะนี้มีผู้นำในตลาดที่น่ากลัวสำหรับระบบเอไอ คือ จีน และเวียดนาม ที่พร้อมพัฒนาตัวเองสู่ระบบออโตเมชันมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนสำหรับประเทศไทย ตอนนี้คือการตื่นรู้ ในขณะที่แรงงานทักษะด้านเอไอของไทยยังน้อย เพราะฉะนั้นโอกาสในการขยายยังมีอีกมาก อย่างไรก็ตาม พยากรณ์ได้เลยว่า เอไอต้องเข้ามาแน่นอน และอาจจะได้เห็นเต็มรูปแบบในไทยภายใน 5-10 ปีนี้ ซึ่งจะไม่ได้จำกัดวงอยู่แค่โรงงานอุตสาหกรรมต่อไป แต่จะขยายเข้าสู่ครัวเรือน ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ

หากคุณยังไม่อัพเกรดสมอง พัฒนาทักษะใหม่ๆ ก็มีสิทธิตกงานแน่นอน

หน้า 23 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,470 วันที่ 16 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ทำไมองค์กรต้อง  Re-Skill พนักงาน