เมกาบางนา ปั้นแพลตฟอร์มออนไลน์ ดูดนักช็อปไทย-เทศ

20 พ.ค. 2562 | 08:03 น.

“เมกา บางนา”เปิดแผนทรานส์ฟอร์เมชัน ทุ่มงบกว่า 100 ล้านเดินหน้าปรับโฉมช่องทางออนไลน์ครั้งใหญ่สุดในรอบ 7 ปี หวังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักช็อปในยุคดิจิทัล ดิสรัปชัน ก่อนต่อยอดขายดึงทัวริสต์มาใช้บริการเพิ่ม

นางสาวสิรินฉัตร แสงศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกา บางนา เปิดเผยว่า จากการศึกษาตลาดพบว่า วันนี้พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่มากกว่า 9ชั่วโมงต่อวัน รวมถึงการใช้งานสมาร์ทโฟนในการหาข้อมูลต่างๆกว่า 80%โดยมีทั้งการดูเพื่อความบันเทิง 88% และการช็อปปิ้งออนไลน์ 59% ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเกิดจากการเข้ามาของดิจิทัล ดิสรัปชัน ดังนั้นผู้ประกอบการเองจึงต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

เมกาบางนา ปั้นแพลตฟอร์มออนไลน์ ดูดนักช็อปไทย-เทศ

ดังนั้นบริษัทจึงใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาทในการพัฒนาและปรับกลยุทธ์ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน โดยปรับโฉมช่องทางดิจิทัลครบทุกแพลตฟอร์ม ตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทุกๆ Customer Experience ซึ่งเป็นการลงทุนมากสุดในรอบ 7 ปีตั้งแต่เปิดให้บริการ 

แบ่งออกเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟสแรก การเปิดตัว เมกาบางนา แอพพลิเคชัน (Megabangna Application) ครบวงจร ทั้งข้อมูลโปรโมชันเด็ดสุดคุ้ม กิจกรรมต่างๆ รายละเอียดร้านค้า รวมไปถึงการสมัครสมาชิก สะสมคะแนน และแลกคะแนนเมกาสไมล์ รีวอร์ดส เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และสามารถรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ สามารถเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจให้ลูกค้าได้มากกว่า ตั้งเป้ามีลูกค้าลงทะเบียนแอพพลิเคชันเพิ่มขึ้น 50% ภายในปี 2564ถือเป็นการสร้างลอยัลตีให้เกิดขึ้น

เมกาบางนา ปั้นแพลตฟอร์มออนไลน์ ดูดนักช็อปไทย-เทศ

ขณะที่เฟส 2 จะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเนวิเกเตอร์ บอกจุดที่ตั้งของร้านค้าภายในศูนย์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 900 ร้านค้า และมีร้านอาหารใน Mega Food Walk มากถึง 160 ร้าน นอกจากนี้ยังมีบริการจองพื้นที่จอดรถผ่านแอพพลิเคชัน และ Chatbot เพื่อสื่อสารกับลูกค้าด้วย

เมกาบางนา ปั้นแพลตฟอร์มออนไลน์ ดูดนักช็อปไทย-เทศ

“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะเห็นไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หันไปให้ความสำคัญกับเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้เมกา บางนาต้องปรับตัวเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยข้อมูลต่างๆที่ได้มา จะถูกนำมาใช้เป็น Big Data ในการวิเคราะห์และวางแผนการตลาดเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งวันนี้สิ่งที่เมกา บางนาจะโฟกัส ไม่ใช่ความเป็นช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ ออนไลน์หรือออฟไลน์ แต่ต้องการจะเป็น Onlife ของลูกค้า”

นางสาวสิรินฉัตร กล่าวอีกว่า โซเชียล ออนไลน์ แพลตฟอร์มจะกลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญในการเข้าถึงลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเว็บไซต์ต่างๆ จะถูกเชื่อมโยงไปยังร้านค้าได้เร็วขึ้น และเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้มากขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 3 นี้ และจะช่วยเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มากขึ้นเป็น 10% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนลูกค้าคนไทย 95% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5% จากจำนวนทั้งหมด 46 ล้านคนต่อปี โดยลูกค้าต่างชาติหลักได้แก่ เกาหลี เวียดนาม และมองโกเลีย ซึ่งแตกต่างจากศูนย์การค้าใจกลางเมืองที่ลูกค้าต่างชาติจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน อย่างไรก็ดี บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าจีนให้ติดท็อป 3 ให้ได้ภายใน 3-5 ปีนี้

เมกาบางนา ปั้นแพลตฟอร์มออนไลน์ ดูดนักช็อปไทย-เทศ

“ภาพรวมใน 4 เดือนที่ผ่านมาพบว่า ยังมีกำลังซื้อที่ดีโดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวที่มีการจับจ่ายต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนใหม่ๆจะต้องรอดูภาพรวมของเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศว่ามีทิศทางอย่างไร ส่วนด้านการตลาดจะใช้งบเพิ่มขึ้น 15%เพื่อทำกิจกรรมและโปรโมชันดึงให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้” 

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3471 ระหว่างวันที่ 19 - 22 พฤษภาคม 2562

เมกาบางนา ปั้นแพลตฟอร์มออนไลน์ ดูดนักช็อปไทย-เทศ