22 พ.ค. สำนักข่าวอิศราเผยแพร่ข่าว ‘ธนาธร-เมีย’ โอน บ.วี-ลัค มีเดีย 900,000 หุ้น ให้แม่ ก่อนเลือกตั้ง 3 วัน ตั้งข้อสังเกตทำธุรกิจสื่อมวลชน ต่อมาธนาธรแจ้งว่าโอนให้แม่ 8 มกราคม 2562 1 เดือนก่อนสมัคร เลือกตั้ง แต่สื่อขุดคุ้ยต่อชี้พิรุธ
- เปิดเอกสารทะเบียนบริษัทแจ้งโอนหุ้น 21 มีนาคม 2562
-การประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท 19 มีนาคม ควรเหลือ 8 คน กลับมี 10 คน เช่นเดิม
ธนาธรชี้แจงเพิ่มว่า แม่โอนหุ้นต่อให้หลาน 2 คน จึงมีผู้ถือหุ้น 10 คนเท่าเดิม ต่อมามีประเด็นว่าวัน
เซ็นโอนหุ้น"ธนาธร"หาเสียงอยู่บุรีรัมย์ จนต้องแจกแจงเวลาการเดินทางอีกยกใหญ่ว่า รีบเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อลงนามเอกสาร ก่อนเดินทางต่อไปช่วยลูกพรรคหาเสียงทางใต้
25 มี.ค. ศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นเรื่องกกต.สอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ของธนาธรปมถือหุ้นสื่อ และเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมหลายครั้ง และต่อมาขยายวงเป็นการร้องตรวจสอบว่าที่ส.ส.ถือหุ้นสื่อหลายสิบคนทั้ง 2 ขั้ว
4 เม.ย. กกต.ตั้งกรรมการช่วยตรวจสอบคำร้องสอบคุณสมบัติธนาธรปมถือหุ้นสื่อ มี 7 ผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกร่วม จากที่ก่อนหน้าตั้งคณะทำงานรวบรวมข้อเท็จจริงมาระยะหนึ่งแล้ว เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญจึงเรียกสำนวนมาทำเอง
30 เม.ย. ธนาธร-ปิยบุตร เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาต่อกกต.
8 พ.ค. กกต.ประกาศรับรองรายชื่อส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรค รวมถึงธนาธร
16 พ.ค. กกต.มีมติส่งคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยคดีหุ้นสื่อธนาธร
23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องไว้พิจารณา ให้ธนาธรส่งคำแก้คำร้องภายใน 15 วัน นัดพิจารณาคดี และสั่งให้ธนาธรยุติการปฎิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย