“มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ หรือ ส.ส.เต้ ชื่อนี้คงไม่ต้องพูดมากให้เจ็บคอ กับกิตติศัพท์ที่เลื่องลืออย่างมากในโซเชียลมีเดีย นับตั้งแต่ได้รับรองจาก กกต. ให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรค ด้วยคะแนน 60,298 คะแนน
ผมเป็นคนหนึ่งที่ทำข่าวคุณเต้มาตั้งแต่ยังทำงานภาคประชาชนในตำแหน่งเลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันแห่งชาติ (ภตช.) หนึ่งในข่าวนั้นคือ การใช้ความรู้จากการที่เรียนจบภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมตรวจสอบและยื่นให้กระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลของโครงการเซฟโซนสคูล ซีซีทีวี หรือ โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดในโรงเรียนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นโครงการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จนทำให้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ส่งข้อมูลให้กับ ป.ป.ช. ตรวจสอบโครงการดังกล่าว แต่ไม่รู้ว่ากรณีนี้ตรวจสอบไปถึงขั้นไหนอย่างไร
นั่นถือเป็น 1 ในจำนวนหลายสิบเรื่องที่ มงคลกิตติ์ นำภาคีภตช. มายื่นหนังสือร้องเรียนที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ตรวจสอบโครงการต่างๆ ที่ล้อกับประเด็นข่าวใหญ่ ข่าวดังในช่วงเวลานั้นๆ มีทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว จนสื่อมวลชนขนานนามว่าเป็น “เต้รายสัปดาห์”
มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์
จนก้าวเท้าเข้าสภาผู้แทนราษฎร ในการประชุมนัดแรกเพื่อเลือกประธานและรองประธานสภาฯ จากเต้รายสัปดาห์กลายเป็นเต้รายวัน ที่มีข่าวปรากฏด้านลบซะมากกว่าในหน้าสื่อและโซเชียลมีเดียทุกวัน
จังหวะหนึ่งมีการประท้วงเรื่องขอตรวจสอบบัตรลงคะแนน ซึ่งประธาน ชัย ชิดชอบ บอกว่าไม่สามารถให้ดูได้ เนื่องจากข้อบังคับการประชุมให้ฉีกทิ้งทันที หลังจากนั้น มงคลกิตติ์ ก็ลุกขึ้นใช้สิทธิ์เป็นครั้งแรก “ท่านประธานครับ ว่าที่ฝ่ายค้าน และว่าที่ฝ่ายรัฐบาล ฝากบอกพี่ๆ ฝ่ายค้านทุกคนครับ ไม่ต้องเสียใจครับ ยังมีเวลาครับ เกมจบแล้วครับ”
ทำให้ จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้โต้กลับทันทีว่า “เลอะเทอะครับ ท่านประธานครับ ประท้วงเลอะเทอะครับ เพิ่งเข้ามานี่เลอะเทอะเลยครับ ไม่ใช่ว่าสักแต่มีไมค์แล้วพูดไปเรื่อย เรื่อยเปื่อยแบบนี้ไม่ค่อยเท่เท่าไร หาสาระไม่ได้”
ไม่นับการไล่ถ่ายเซลฟีกับนักการเมืองชื่อดังในสภาเพื่อโพสต์เฟซบุ๊ก นั่นไม่เท่าไร แต่เข้าไปอ่านคอมเมนต์ผู้ที่ไม่ใช่ FC ที่แสดงความคิดเห็นนั่นใช้คำว่า “ยับ” ได้เลยครับ
ผมมีโอกาสคุยกับส.ส.หลายคน ที่อยู่ฝั่งเดียวกับ มงคลกิตติ์ เขามองตรงกันว่า มุมหนึ่ง ถือเป็นตัวตนของคุณมงคลกิตติ์ ที่ใช้เสรีภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ ก่อนเป็นส.ส.อย่างไร เมื่อเป็นส.ส. ก็ยังวางตัวแบบเดิมไม่มีเปลี่ยน แต่อีกมุมหนึ่ง ตัวตนเช่นนี้ อาจจะกลายเป็น “จุดอ่อน” ของพรรคร่วม ที่ต้องไม่ลืมว่าไม่ได้มีแค่พรรคเล็ก 10 คนจาก 10 พรรค ที่แท็กทีมกันสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ แต่หมายถึงอีกกว่า 200 ชีวิตที่ต้องร่วมหัวจมท้ายกอดคอกันในการจัดตั้งรัฐบาลที่ครองเสียงข้างมากในสภา ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ดูแลความเดือดร้อนของประชาชน อาจจะพลอยฟ้าพลอยฝน ติดร่างแหโดนถล่มไปด้วยโดยไม่ได้ทำอะไร
เพื่อนส.ส. จึงฝากคำแนะนำที่น่าสนใจ จะดีกว่าไหม ถ้า ส.ส.เต้ ใช้ความรู้ด้านวิศวะที่ถนัดอย่างเต็มที่ในการทำงานเพื่อประชาชน เป็น การลบภาพที่สังคมโจมตี ดีกว่าเป็นแค่สีสันในสภาดังที่ถูกครหาอยู่ ณ ตอนนี้
อินไซด์สนามข่าว โดย จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานศรษกิจ ฉบับที่ 3474 วันที่ 30 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2562