“กฤษฎา”ฝากการบ้านรัฐมนตรีเกษตรฯคนใหม่สานต่อตลาดนำการผลิต
ภัยแล้งพ่นพิษราคา“ทุเรียนไทย”พุ่งเล็งคุมหมัน สั่งสำรวจความต้องการโลก กำหนดพื้นที่ปลูก ผวาอนาคตล้นซ้ำรอยยางพารา “กฤษฎา” แซวชื่อเสียงกระทรวงเกษตรฯหอมยิ่งกว่าทุเรียนตลาดไท เล็งฝากการบ้านคนใหม่นั่งสานต่อตลาดนำการผลิต ชี้โมลเดลสำเร็จปลูกข้าวโพดหลังนาเกษตรกรฟันกำไรอื้อ
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า สถานการณ์ปีนี้ผลผลิตทุเรียนไทยราคาดีเพราะตลาดต่างประเทศยังต้องการทุเรียนไทยจำนวนมากประกอบกับประเทศต่างๆ ที่เริ่มปลูกทุเรียนประสบความแห้งแล้งผลผลิตในต่างประเทศจึงยังน้อยอยู่จึงทำให้ทุเรียนไทยโชคดี ราคาดีกว่าปีก่อน แต่ไม่ประมาท จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหาข้อมูลการตลาดที่แท้จริงว่าปริมาณความต้องการทุเรียนควรมีเท่าไรเพื่อจะได้กำหนดจำนวนพื้นที่ปลูกทุเรียนให้พอดีกับตวามต้องการของตลาดเพื่อป้องกันปัญหาทุเรียนล้นตลาดเหมือนยางพาราที่ราคาตกต่ำเพราะในปัจจุบันที่เราปลูกยางกันไปทั่วประเทศไม่มีการวางแผนว่าควรปลูกยางเท่าไหร่หรือควรปลูกยางพาราพื้นที่ไหนบ้าง
“ขอให้ตลาดไท ช่วยกำหนดได้หรือว่าในปีหนึ่งตลาดไท ต้องการพืชผัก/ผลไม้แต่ละชนิดจำนวนเท่าไรและต้องการลักษณะแบบไหนแล้วมาจับคู่กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชพักนั้นๆเพื่อทำสัญญารับซื้อผลผลิตของเกษตรกรผ่านกลุ่มเกษตรกรโดยตรงหรือผ่านกรมส่งเสริมการเกษตรหรือสหกรณ์การเกษตรเพื่อทำสัญญารับซื้อจากเกษตรกรโดยตรงเหมือนโครงการข้าวอาหารสัตว์หลังฤดูทำนาที่กระทรวงเกษตรฯได้ติดต่อสมาคมผู้ค้าอาหารสัตว์ก่อนขอทราบว่าแต่ละปีตลาดอาหารสัตว์ต้องการข้าวโพดกี่ตัน”
หลังจากนั้นทางกระทรวงเกษตรฯจึงไปแนะนำให้ชาวนาลดการทำนาปรังมาปลูกข้าวโดดอาหารสัตว์แทนการทำนาปรัง ซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้วนี่คือการเปลี่ยนแปลงโครสร้างการผลิตทางการเกษตรของรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้
“แม้ว่าขณะนี้ชื่อ "กระทรวงเกษตรฯ" จะหอมหวนมากยิ่งกว่า "กลิ่นทุเรียน" ในตลาดไท แต่ใครก็ตามที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลหรือดูแลกระทรวงเกษตรฯก็ควรนำเรื่องการปรับโครงสร้างวิธีการเกษตรกรรมรูปแบบนี้ไปพิจารณาด้วย” นายกฤษฎา กล่าวทิ้งท้าย