ไทยติดอันดับ 3 อาเซียนละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ “อาร์เอ็มไอ” เร่งเพิ่มผู้ใช้ออฟฟิศ “Thai WPS” เพิ่มกว่า 1 แสนไลเซนส์ รับกระแสองค์กรตื่นตัวใช้ของถูกกฎหมายลดเสี่ยง โจมตีแรนซั่มแวร์ พร้อมเร่งแจกไลเซนส์ฟรีสถาบันการศึกษาปูพรมผู้ใช้อนาคต
นายณัฐกิตติ์ บุญยวิสิฐโภคิน รองประธานฝ่ายขายและบริหาร บริษัท อาร์เอ็มไอ โกลบัล เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีลิขสิทธิ์ในประเทศไทยยังสูงติดอันดับ 3 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากเวียดนามที่อยู่ในระดับ 74% และอินโดนีเซีย 83% ขณะที่สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ยังมีอัตราการใช้ซอฟต์แวร์โดย
ไม่มีลิขสิทธิ์ตํ่ากว่าประเทศไทย ในอัตรา 27%, 51%, 64% ตามลำดับ
จากผลสำรวจของ Thai WPS พบว่าจำนวนคอมพิวเตอร์พีซีในไทยราว 11-12 ล้านเครื่อง เป็นสัดส่วนของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในองค์กร ประมาณ 20-25% หรือประมาณ 2 ล้านเครื่อง ซึ่งใน 30-40% ยังคงใช้ออฟฟิศ ซอฟต์แวร์ที่ไม่ถูกลิขสิทธิ์ ทุกวันนี้มีซอฟต์แวร์สำนักงาน หรือที่เรียกกันว่า Office Software อยู่มากมายหลายยี่ห้อ มีทั้ง Freeware หรือ Open Source ทั้งเป็นแบบเสียเงินซื้อเป็นไลเซนส์ ซึ่งตลาดกำลังต้องการทางเลือกที่เป็นของดีราคาพอเหมาะ
“ในช่วงที่ผ่านมาภาครัฐ และเอกชนต่างเริ่มให้ความสำคัญกับการใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้นเพื่อลดการโจมตีจากแรนซั่มแวร์ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงได้มาก ขณะที่ทางยุโรป ก็ปฏิเสธการรับไฟล์งานที่ไม่ถูกลิขสิทธิ์”
สำหรับ Thai WPS นั้นเกิดจากความร่วมมือกับบริษัทคิงส์ ซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศจีน ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานสำหรับคนไทยโดยเฉพาะเมนูไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งจุดเด่นของซอฟต์แวร์ Thai WPS 3 ประการ คือ 1.ไม่ต้องเรียนรู้ใหม่เนื่องจากเราทำส่วนต่อประสานงานกับผู้ใช้ (User interface) หรือหน้าตาให้เข้ากับความคุ้นชินของผู้ใช้งาน ติดตั้งแล้วใช้งานได้เลย 2.มีขนาดเล็กกว่าและเร็วกว่า ด้วยความที่ซอฟต์แวร์เรามีขนาดที่เล็ก ไม่กินสเปกเครื่อง ทำให้เราทำงานได้เร็วกว่า และ 3. มีฟังก์ชันการใช้งานพิเศษที่ได้จากการวิจัยและพัฒนา ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ง่ายและเร็วขึ้น โดยซอฟต์แวร์ Thai WPS มีทั้งการขายขาด (Life Time) และการเช่าใช้รายปี ซึ่งค่าใช้จ่ายนั้นจะประหยัดกว่า ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศราว 60% โดยสามารถใช้งานทั้ง Writer (เวิร์ด), Presentation (พาวเวอร์พอยต์) Spreadsheet (เอ็กซ์เซล)
ทั้งนี้อุปสรรคในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของ Thai WPS คือ การสร้างการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักของ Thai WPS คือลูกค้าองค์กร โดยปัจจุบันเป็นภาครัฐ 60% และเอกชนอีก 40% สัดส่วนในการขยายตลาดนั้นมองว่า ภาครัฐนั้นมีโอกาสในการเติบโตมากกว่าภาคเอกชนเนื่องจากซอฟต์แวร์ที่รัฐใช้งานมีช่องโหว่มากกว่า ทั้งนี้การทำตลาดจะเน้นในเรื่องการแนะนำผลิตภัณฑ์รวมถึงให้ทดลองใช้ซอฟต์แวร์ ทั้งกับทางภาคการศึกษา โดยได้ให้ทางภาค การศึกษาใช้ไลเซนส์ซอฟต์แวร์ฟรีกว่า 14.3 ล้านไลเซนส์ เพื่อหวังที่จะเพาะเมล็ดพันธุ์ สร้างความคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ของ Thai WPS ให้กับนักเรียนนักศึกษา รวมถึงการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลังปีนี้ Thai WPS ตั้งเป้าที่จะขายไลเซนส์เพิ่ม 1 แสนไลเซนส์ จากฐานลูกค้าหลักหมื่นในปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเป็นเม็ดเงินกว่า 40 ล้านบาท ส่วนที่เพิ่มขึ้นจะมาจากการผนึกพันธมิตร ที่ได้มีการทดสอบกับองค์กรใหญ่อยู่ในหลายที่
หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3475 ระหว่างวันที่ 2-5 มิถุนายน 2562