สามมิตร ตั้งเป้า 3 ปีส่งรถบรรทุกและรถพ่วงตีตลาด AEC

05 มิ.ย. 2562 | 03:24 น.
อัปเดตล่าสุด :05 มิ.ย. 2562 | 11:16 น.

สามมิตรมอเตอร์ส มั่นใจตลาดรถบรรทุกแนวโน้มโต พร้อมกางแผนรับด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ที่ใช้เหล็กพิเศษ “ไฮ เทนไซล์” (Hi Tensile) เจ้าเดียวในตลาด พร้อม ตั้งเป้าภายใน 3 ปี รุกตลาดเออีซีรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

 นายสุริยา โพธิ์ศิริสุข กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริง จำกัด (มหาชน)ภายใต้ สามมิตร กรุ๊ป โฮลดิ้ง เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถบรรทุกในระยะที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตปีละประมาณ 5-7 % และคาดการณ์ว่าในปี 2562 จะมีประมาณ 31,000 คัน โดยช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ตลาดจะค่อยๆขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก

“นโยบายรัฐบาลยังคงให้การสนับสนุนในด้านการลงทุน ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคธุรกิจโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้ามีอัตราการเติบโตตามไปด้วย รวมถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของธุรกิจ  E-Commerce ทั้งภายในประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียน ยังส่งผลให้ธุรกิจโลจิสติกส์เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน”

สามมิตร ตั้งเป้า 3 ปีส่งรถบรรทุกและรถพ่วงตีตลาด AEC

นายสุริยา กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนงานรับตลาดที่ขยายตัวของสามมิตรมอเตอร์สคือการพัฒนาเรื่องน้ำหนัก โดยได้วิจัยและพัฒนากับผู้ผลิตเหล็ก ในการนำเหล็กพิเศษ “ไฮ เทนไซล์” (Hi Tensile) มาใช้สำหรับการผลิตตัวถังรถบรรทุกและรถพ่วง และสำหรับผลิตโครงสร้างChassis Frame ของรถพ่วง(Semi Trailer) ซึ่งคุณสมบัติของเหล็ก “ไฮ เทนไซล์” จะมีความแข็งแรง ทนทาน กว่าเหล็กทั่วไปประมาณ 30-40% แต่มีน้ำหนักเบากว่า ทำให้น้ำหนักของตัวรถเบาลงกว่า 2 ตัน สามารถบรรทุกสินค้าได้เพิ่มขึ้น 2 ตัน เพิ่มกำไรให้กับผู้ประกอบการขนส่ง  และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

 

“สามมิตรถือเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในตลาด ที่นำเหล็กพิเศษนี้มาใช้ในการผลิตตัวถังรถทุกประเภท นอกจากนี้ทางสามมิตรยังมีทีม Engineer สำหรับการออกแบบและพัฒนาตัวถังและอุปกรณ์ เพื่อให้สามารถนำเสนอ Solution ที่สอดคล้องกับการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้รถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น”

สามมิตร ตั้งเป้า 3 ปีส่งรถบรรทุกและรถพ่วงตีตลาด AEC

ด้านการบริการหลังการขาย สามมิตรต่อยอดธุรกิจจากผู้ผลิตรถบรรทุกและรถเทรเลอร์ มาเป็นผู้ให้บริการ โดยได้จัดตั้งศูนย์บริการบำรุงรักษารถบรรทุกและรถ Trailer ที่ได้มาตรฐาน ด้วยเงินลทุน 100 ล้านบาท  มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อ SMM Pro Truck ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างสามมิตรและบริษัท PTG Energy จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมี 10 สาขา และตั้งเป้า 100สาขา ภายในปี 2567

 

นายสุริยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สามมิตรมีความมั่นใจที่จะทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะ 3 ปีจากนี้ จะรุกทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น เริ่มจากตลาด AEC อาทิ อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีการเติบโตทางจีดีพี  และมีการลงทุนด้านสาธารณูปโภคทั้งสร้างถนน ท่าเรือ สนามบิน อีกทั้งการเติบโตทางด้านโลจิสติกส์ทำให้จำเป็นต้องใช้รถบรรทุกเพื่อการขนส่งสินค้ามากขึ้น

สามมิตร ตั้งเป้า 3 ปีส่งรถบรรทุกและรถพ่วงตีตลาด AEC

“ปัจจุบันทางสามมิตรได้มีการตั้งโรงงานผลิตตัวถังรถบรรทุกที่ประเทศอินโดนีเซีย  และจะขยายไปยังประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อเป็นฐานยุทธ์ศาสตร์ของตลาดอาเซียนต่อไป”