ประชาชนคาดหวังอะไร จากรัฐบาลใหม่

ในที่สุดการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 เลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 สมัยที่ 2 ของประเทศ ไทย ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว หลังใช้เวลาในการประชุมร่วม 15 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าสมาชิกรัฐสภาขานชื่อลงมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยได้คะแนนเสียง 500 เสียง

แซงหน้านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แคนดิเดตชิงนายกรัฐมนตรีจาก 7 พรรคร่วมที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย ได้คะแนน 244 เสียง

เมื่อถามว่าจะประกาศจัดตั้งรัฐบาลได้เมื่อไหร่ ดูจากไทม์ไลน์ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า จากนี้ทางสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้นำรายชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯถวาย เมื่อมีโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว ก็เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะดำเนินการเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคงจะต้องมีการหารือกับพรรคการเมืองต่างๆหลังจากนั้นจะส่งรายชื่อครม.ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำรายชื่อครม.ทั้งหมดไปตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง

                        พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ส่วนจะได้รัฐบาลชุดใหม่ภายในเดือนนี้หรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า โดยทั่วไปก็ไม่ควรจะยาวนาน วันนี้เพิ่งจะวันที่ 6 มิถุนายน เหลืออีก 24 วัน ก็น่าจะสามารถทำได้

 ผมหวังว่าเมื่อได้ข้อยุติในการหารือกับพรรคการเมืองต่างๆ ว่า พรรคใดและใครจะไปอยู่กระทรวงไหน น่าจะดำเนินการประกาศจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว

ประการสำคัญทุกพรรคการ เมืองที่ร่วมรัฐบาล “ประยุทธ์ สมัยที่ 2” ควรวางอคติและความขัดแย้งลงได้ จะทำให้ประเทศไทยจากนี้ไปจะดีกว่านี้แน่นอน เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลมีเสถียรภาพ จะเป็นแรงส่งให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย กลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง

นั่นคือความคาดหวังที่ประชาชนคนไทยถวิลหามานาน

เช่นเดียวกับสิทธิเสรีภาพที่คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าถูกจำกัดมากไป จึงคาดหวังว่ารัฐบาลใหม่จะเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มิใช่ว่าจะใช้บังคับประชาชนฝ่ายเดียว

อย่าลืมว่าประชาชนทุกระดับชั้น คาดหวังต่อกลุ่มบุคคลที่จะมาร่วมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำพาประเทศก้าวไปในทิศทางใดและอย่างไร

พูดตรงๆ ชัดๆ วันนี้เวลานี้ คนที่ทำมาค้าขาย ก็ยังค้าขายไม่ดี คนหาเช้ากินคํ่าก็ยังหาเงินยาก กินอยู่ลำบาก เศรษฐกิจไม่ดีขึ้น สินค้าแพง ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า

ร้องขอจนเสียงแหบเสียงแห้ง ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี

เช่นเดียวกับเรื่องที่ผมติดตามดูอยู่ห่างๆ กับการแก้ปัญหาค่าครองชีพ ปากท้องประชาชนคนไทย เท่าที่สังเกตเห็นเดี๋ยวนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดลืมตาอ้าปากได้

4 ปีนับจากนี้ โปรดสานต่อภารกิจสำคัญ ดูแลประชาชนคนไทยให้อยู่ดีมีสุข ท้องอิ่มมากขึ้นด้วยครับ

ปฏิกิริยา โดย ชิษณุชา เรืองศิริ 

หน้า 7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3477 วันที่ 9-12 มิถุนายน 2562