กลุ่มทุนไล่ซื้อที่ชลบุรี กังขามือมืดเปลี่ยนสีผังเมืองปั่นราคาที่ดินพุ่ง

นายกสมาคมอสังหาฯชลบุรี แนะการพัฒนาเมืองต้องออกแบบให้อยู่ร่วมกันได้ชุมชนกับอุตสาหกรรม แฉมีกลุ่มทุนปรับสีผัง ผิดจากร่างของผังเมืองจังหวัด ดันราคาที่แพงระยับแถบเมืองชลบุรี-พัทยา-สัตหีบ เปลี่ยนแปลงสูง พบจีนกว้านซื้อที่นิคมอุตสาหกรรม

“ชลบุรี” กำลังถูกจับตา จากการขับเคลื่อน “เมือง” หลังถูกจัดเป็นอีกหนึ่งจังหวัดในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี จึงเป็นจุดสนใจของภาครัฐ และเอกชน เข้าพัฒนาพื้นที่ โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจที่ถูกมองว่าเป็นสมบัติของคนรํ่ารวย...ไม่มีพื้นที่เหลือให้ผู้มีรายได้น้อยอีกต่อไป

นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรีและกรรมการผู้จัดการบริษัทไลฟแอนด์ ลีฟวิ่ง จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การออกแบบเมืองต้องออกแบบให้สามารถอยู่อาศัยร่วมกันได้ แต่ปัญหาใหญ่ กลับมีคนบางกลุ่มปรับเปลี่ยนสีการใช้ประโยชน์ที่ดิน ผิดไปจากร่างผังเมืองที่จังหวัดกำหนดไว้ ส่งผลทำให้แนวโน้มราคาที่ดินเพิ่มมูลค่ามีราคาแพง เกิดการพัฒนาในพื้นที่มากขึ้น กระทั้งผู้มีรายได้น้อยไม่สามารถอยู่อาศัยในเมืองได้ จึงมีคำถามว่าใครได้ประโยชน์

มีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ

สำหรับพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงสูง ไล่ตั้งแต่ พัทยา สัตหีบ แถบเขตเมืองชลบุรี คาดว่าที่ดินจะปรับเพิ่มสูงในไม่ช้านี้ เนื่องจากสามารถพัฒนาเมืองแนวสูงได้ อย่างไรก็ตาม ผังเมืองจะบ่งชี้ให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจของพื้นที่อีอีซีอย่างชัดเจน เชื่อว่า ตลอดแนวมีนายทุนเข้ามาจับจองหมดแล้ว ส่วนความเคลื่อนไหวของการซื้อที่ดินของทุนต่างชาติ ยังมีเกิดขึ้น ปัจจุบันยังพบอีกว่านักลงทุนจีนกว้านซื้อที่ดินพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเฉพาะของจีนเท่านั้น ไม่ได้ซื้อลงทุนทำโรงงานเฉพาะรายใดรายหนึ่ง

สำหรับชลบุรี มีทั้งจุดเด่นและข้อด้อยที่ นายกสมาคมอสังหาฯชลบุรี สะท้อนว่า ต้องพึ่งพาเศรษฐกิจจากต่างประเทศต่อไป โดยเฉพาะอุตสาหกรรม จากการส่งออก ขณะ การท่องเที่ยวก่อให้เกิดการจ้างงาน ร้านอาหาร รีสอร์ต โฮมสเตย์ที่พักอาศัยรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งยังมีโอกาสที่ดี ก่อให้เกิดการบริโภคภายในประเทศมากขึ้นได้จริง จุดเด่นของร้านบริการอาหารทะเลยังขยายได้ไปอีกหลายพื้นที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว รองรับการพัฒนาสู่ระดับชุมชนได้อีกมากมาย

“อยากให้มองเรื่องการอยู่ร่วมกันของชุมชนระยะยาวอย่างยั่งยืนเอาไว้ด้วย การท่องเที่ยวสามารถสนองแนวคิดนี้ได้อย่างดี แต่อุตสาหกรรมไม่ได้ทำให้เกิดบริบทของเมืองแบบนี้ได้ เป็นเพียงผู้อพยพมาอยู่อาศัยในพื้นที่เท่านั้น จึงไม่แปลกที่จะเห็นภาพเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของต่างประเทศที่ล่มสลายไปจะมีการล่มสลายของชุมชนรอบพื้นที่ตามไปด้วย รัฐบาลไทยควรมอง 3 จังหวัดและอีก 2-3 จังหวัดโดยรอบพื้นที่อีอีซีใหม่ว่าควรมีการพัฒนาที่จะสอดคล้องกับวิถีทางวัฒนธรรมและโครงสร้างของสังคมไว้ด้วย”

สำหรับการพัฒนาเมือง ขึ้นอยู่กับกรมโยธาธิการและผังเมือง จะสร้างศักยภาพที่เป็นปัจจัยให้เมืองเติบโตได้หรือไม่ หากเปิดพื้นที่ให้เกิดการพัฒนาได้ตรงกับความต้องการของแต่ละพื้นที่น่าจะสนองตัวเลขทางเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในโซนนั้นๆได้อย่างแท้จริง พื้นที่ในเขตชั้นในเมืองควรเพิ่มศักยภาพไม่ควรขยายออกไปสู่นอกเมืองมากจนเกินไป 

หน้า 27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3477 วันที่ 9-12 มิถุนายน 2562