เรื่องวุ่นๆ ของการจัดทำโผหรือจัดสรรโควตารัฐมนตรีรอบนี้ มีทั้งความเหมือนและความต่างไปอย่างสิ้นเชิง จากที่ผมและนักข่าวหลายคนเคยทำข่าวการเมืองมา
สิ่งที่เหมือนกันทุกยุคไม่เปลี่ยนคือ หากพรรคไหนได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะต้องจัดขบวนขันหมากชุดใหญ่ไปสู่ขอพรรคอื่นมาร่วมรัฐบาล ในเชิงสัญลักษณ์และภาพข่าวมักจะทำให้มั่นใจได้เกือบ 100% ว่า เมื่อมาสู่ขอและถ่ายรูปคู่กันแล้ว ยังไงซะก็จะได้แต่งงานร่วมรัฐบาลกันแน่นอน ชัวร์ป๊าบ
แต่ในทางลับที่ไม่มีใครได้เห็น คือ การทำโผรมต.เป็นความลับสุดยอดของแต่ละพรรคที่จะร่วมรัฐบาล ต้องนัดพูดคุยเจรจาตกลงกันในสถานที่ใดก็ตาม ที่อย่าให้มีสื่อมวลชนล่วงรู้เชียว แต่ก็ไม่วายที่นักข่าวจะไปล้วงแคะแกะความลับนั้นออกมาจนได้ สุดท้ายโผออกมาตรงบ้าง ผิดบ้างนิดหน่อย ก็ว่ากันตามความสามารถของนักข่าวแต่ละคน
แต่สิ่งที่ต่างไปจากในอดีตคือยุคนี้มี “โซเชียลมีเดีย” ทั้ง Line Facebook Twitter ที่เข้ามามีผลกระทบในทุกแวดวง รวมทั้งแวดวงการเมืองด้วยเช่นกัน
ยกตัวอย่าง คํ่าวันที่พรรคประชาธิปัตย์ประชุมกรรมการบริหารพรรค มีมติเสนอชื่อ นายชวน หลีกภัย เข้าชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ปรากฏว่าคํ่าวันนั้นยังไม่มีการเปิดเผยมติออกมาอย่างเป็นทางการ แต่สังคมล่วงรู้ได้จาก ทวิตเตอร์ส่วนตัวของ “มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข” กรรมการบริหารพรรค ที่นั่งอยู่ในห้องประชุมว่า “ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเสนอชื่อ นายชวน หลีกภัย เข้าชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร” หลังจากนั้นจึงได้รับทราบมติอย่างเป็นทางการจากโฆษกพรรคและนายหัวชวน
และอีกกรณี กับการโพสต์ทวงคืนเก้าอี้รมต.ผ่านเฟซบุ๊กสั้นๆ ของ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่า “กระทรวงมีไว้ให้คนเข้าไปทำงาน ไม่ใช่มีไว้ให้มาเที่ยวแลกไปมา จบข่าว !!!”
โพสต์นี้ของ “เสี่ยหนู” ทำให้มีคนเข้ากดแสดงอารมณ์ทะลุ 2 หมื่นคน แสดงความคิดเห็นมากกว่า 1 หมื่นความคิดเห็น และแชร์อีกนับหมื่น ทั้งด่าทั้งชมปนกันไป แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดเผยเก้าอี้รัฐมนตรีที่ต่อรองกับพลังประชารัฐให้รับทราบในช่องแสดงความคิดเห็น
“คมนาคม สาสุข ท่องเที่ยว เปลี่ยนไม่ได้”
แปลเป็นภาษาที่ถูกต้องว่า “กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เปลี่ยนไม่ได้”
ดูแล้วก็ เอ๊ะ ใช่ “เสี่ยหนู” ตัวจริงโพสต์เองตอบเองหรือเปล่า ก็ตั้งหน้าตั้งตาไล่เลียงดูความคิดเห็นกว่าหมื่นข้อ ความย้อนหลัง ก็เชื่อได้ว่าเป็น “เสี่ยอนุทิน” นั่งตอบเฟซบุ๊กด้วยตัวเอง เช่นมีคนถามว่า รู้สึกอายไหมครับคนรุมด่าเยอะขนาดนี้ คำตอบจากเจ้าของเฟซบุ๊กคือ “นิดหน่อยครับ” และมีคนไม่มั่นใจว่าใช่ตัวจริงตอบเองหรือเปล่า ก็ขอให้ “เสี่ยหนู” ชู 2 นิ้ว ตอบกลับมาหน่อย ปรากฏว่ารูปชู 2 นิ้วก็ส่งตอบกลับมาจริงๆ
แต่ทว่าการโพสต์เฟซบุ๊กของคนระดับหัวหน้าพรรคการเมืองระดับชาติ ที่กำลังจะเข้าไปนั่งในกระทรวงสำคัญในการบริหารประเทศ ถูกจับตาว่าอนาคตจะระเบิดอารมณ์ เปิดเผยความลับต่อสาธารณชนแบบนี้อีกหรือไม่ หากไม่พอใจอะไรขึ้นมา
อินไซด์สนามข่าว โดย จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3478 ระหว่างวันที่ 13 - 15 มิถุนายน 2562