“ประยุทธ์ 2” ต้องหาญกล้า ตั้ง ครม.ปลอดยี้

12 มิ.ย. 2562 | 04:08 น.

บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3478 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 13-15 มิ.ย.2562

 

“ประยุทธ์2” ต้องหาญกล้า

ตั้ง ครม.ปลอดยี้

 

                ในพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้นและขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ

                พล.อ.ประยุทธ์ให้คำมั่น จะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ เพียรพยายาม มุ่งมั่นทำงาน พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศในทุกด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ลดความเหลื่อมลํ้า กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็ง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเงินการคลัง และเอกชนมีส่วนร่วม

  ื              ตลอดจน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลกยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี สร้างสรรค์สังคมให้มีความรักความสามัคคีปรองดอง สมานฉันท์ เกื้อกูลกันในทุกโอกาส เพื่อความกินดี อยู่ดี และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน พร้อมจะปกป้องรักษาไว้ ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย

                ถ้อยแถลงนี้ถือเป็นสัญญาประชาคม ที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 สมัย 2 ต้องเดินตามแนวทางนี้ ซึ่งว่าไปแล้วครอบคลุมการปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบด้านพอสมควร รวมทั้งการเรียกร้องการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ได้มีโอกาสทำงานมา 5 ปีแล้วในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องยอมรับว่ามีหลายประเด็นที่การทำงานของพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลที่ผ่านมาแก้ปัญหาได้ลุล่วง และมีประเด็นมากมายพอสมควรที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์สร้างปัญหาเพิ่มขึ้น

                พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีสมัย 2 ต้องมีความกล้าหาญในการต่อสู้กับคอร์รัปชัน สร้างความโปร่งใสตามที่ประกาศไว้ โดยเริ่มจากการไม่เลือกรัฐมนตรีร่วมครม.ที่มีข้อครหาความไม่โปร่งใสจากคนใกล้ตัว ใกล้ชิด หรือกระทั่งต้องกล้าปฏิเสธชื่อรัฐมนตรีจากพรรคการเมือง ที่มีพฤติกรรมสีเทาในอดีตตามที่โจษขาน ตั้งครม.ที่ปลอดยี้ หากไม่มีความหาญกล้าพอ เหมือนการตั้งส.ว.ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่ผ่านมาถึงความไม่เหมาะสมในการคัดเลือกคนแล้วรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ สมัย 2 จะเริ่มเสื่อมตั้งแต่วันแรก และนำไปสู่การนับถอยหลังรอวันพังครืนตั้งแต่วันเริ่มต้น