เซอร์ไพรส์ ‘ชาดา’ อะฮ้า! รมช.มหาดไทย

12 มิ.ย. 2562 | 09:32 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3478 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 13-15 มิ.ย.2562 โดย...พรานบุญ

 

เซอร์ไพรส์ ‘ชาดา’

อะฮ้า! รมช.มหาดไทย

 

                2-3 วันมานี้ มีข่าวคราวทำให้พรานฯ อ้าปากค้าง เพราะคาดไม่ถึง 2-3 เรื่อง แต่ละเรื่องเห็นแล้วมึนตึ้บขอรับนายท่าน!

                อ้าปากค้างแอนด์อึ้งเรื่องแรก...ในขณะที่ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติที่ได้อำนาจจากประชาชนผู้ออกเสียงในระบอบประชาธิปไตยตบตีแย่งเก้าอี้รัฐมนตรี ล็อกกระทรวงกันจนผู้คนเอือมระอา

                แต่ที่กระทรวงคมนาคม หน่วยงานที่มีการตั้งเรื่องโครงการใช้งบประมาณในการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ร่วม 8-9 แสนล้านบาท พรานฯได้ฟังเสียงอีเห็นร้องแรกแหกกระเชอดังสนั่นไพรว่า บ้านนี้เมืองนี้วิปริตแปรปรวนเกิดปรากฏการณ์ “เรียกตัว” ปลัดกระทรวง อธิบดี ยันประธานกรรมการรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ ไปอินปรีฟแผนนโยบาย โครงการสำคัญ งานประมูลที่ต้องรีบเร่ง ให้ว่าที่ “เสนาบดี” ที่กำลังจะกลายเป็นพระยาเหยียบเมืองรับฟัง สั่งการ เรียบโร้ยโรงเรียนจีน เขมร ลาว ไทย

                เรียกว่า ยังมิทันเข้าสู่ตำแหน่ง “รมต.เต้าหู้ยี้” ผู้ทรงเกียรติก็มีของดีมาสั่งการให้ชะลอเรื่อง ให้เร่งจัดทำรายงาน ให้จัดทำข้อสังเกตมาเสนอ ฯพณฯ (พะ-นะ-ท่าน) โดยไม่สนใจ “รัฐมนตรี” ที่ทำหน้าที่บริหารงานเป็นหัวหลักหัวตอแม้แต่นี้ดเดียว....555

                ทำการบ้านในการเข้าสู่ตำแหน่งแบบรวดเร็วฟาสต์แทร็กจี๊ดจ๊าดบาดใจจริงๆ ขอบอก “รัฐมนตรีท่านนี้”

                หึหึ...อย่าให้พรานฯพูดเล้ยขอรับว่า ให้ชะลอโครงการไหน ให้เร่งมืองบก้อนใด มันเสียวใจอ่ะลูกเพ่!

                อ้าปากค้างจนกรามแข็งเรื่องที่ 2 คือ...บรรดาลิง ค่าง บ่าง ชะนี ในไพรีนิเวศน์ ร้องตะโกนโหวกเหวก วิเวกกังวาน ผัวๆๆๆ เจี๊ยกๆ จ๊ากๆสนั่นเมื่อได้กลิ่นสาบเสือ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ผู้ได้รับสมญานามว่า “พี่ใหญ่อุทัยธานี” ซึ่งย้ายมาจากพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตนายกเทศมนตรี อดีตส.ส. 3 สมัยที่พาหลานชาย “เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์” เข้าสู่เวทีการเมืองแบบยกจังหวัด ได้รับฉันทามติจากพรรคให้ก้าวขึ้นเป็น “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย” แต่จะเป็น มท.2 หรือ มท.3 ไม่มีใครรู้...แค่มีชื่อ “ชาดา” เสียงแห่งผืนป่าดงพงไพรตั้งแต่เขาใหญ่-ทุ่งนเรศวรยันเทือกเขาตะนาวศรีที่เคยครึกครื้น นิ่งเงียบเชียบสนิท เพราะสาบสาง

 

เซอร์ไพรส์ ‘ชาดา’ อะฮ้า! รมช.มหาดไทย

                ชื่อชั้นของชาดานั้นไม่ธรรมดา เจ้าตัวยังเคยบอกว่า เขาได้รับสมญานามว่า “เจ้าพ่อ-ผู้กว้างขวางในอุทัยธานี” อาณาเขตเขาครอบคลุมไปทั่วทั้งบ้านไร่-หนองฉาง-ลานสัก-ทัพทัน-ห้วยคต ลากยาวเข้าเขตเมืองยันพื้นที่นครสวรรค์-ตาก เพราะเป็นคนคบเพื่อนและเป็นผู้ให้

                พรานฯเคยสนทนากับชาดาหลายครา คนนี้ใจถึงพึ่งได้ กล้าทำ กล้ารับ คำไหนคำนั้น บารมีพลังของชาดานั้นถือว่า หาตัวมาเทียบยาก

                วันที่ 10 มกราคม 2559 ชาดาจัดงานมงคลสมรส ระหว่าง นางสาวปานัดฌา ไทยเศรษฐ์ กับ นายณัฐพงศ์ เบญจทวีผล และนางสาวอัลฑริกา ไทยเศรษฐ์ กับ นายวีระชาติ รัศมี ลูกสาวสุดที่รักรวดเดียว 2 คน คนไปร่วมงานเป็นหมื่นคน มาทุกวงการ ชวน หลีกภัย, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, เสนาะ เทียนทอง, สุเทพ เทือกสุบรรณ, จตุพร พรหมพันธุ์, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เรียกว่ามากันทั่วฟ้าเมืองไทย ฯลฯ

                ชาดา ถือเป็นคนสู้ชีวิตฝ่าวิกฤติดงนักเลงและเสียงปืนมาตั้งแต่วัย 7-8 ขวบ สร้างธุรกิจค้าเนื้อวัว ควาย มาตั้งแต่วัย 13-14 ปี จบการศึกษาจากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน จบ ป.ตรี รัฐศาสตร์ จากรามคำแหง รัฐศาสตรมหาบัณฑิต รามคำแหง

                เส้นทางชีวิตเขาโลดโผนเต็มเปี่ยมไปด้วยเลือดนักสู้อย่างยิ่งชาดา เคยถูกจับกุมในข้อหาจ้างวานฆ่า สมเกียรติ จันทร์หิรัญ เลขานุการของ ประแสง มงคลศิริ ส.ส.พรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2546 ศาลพิพากษายกฟ้องในปี 2548

                ชาดาถูกลอบยิง เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2555 ที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แต่ไปถูก ฟารุต ไทยเศรษฐ์ ผู้เป็นบุตรเสียชีวิตบนรถของชาดา

                ไพศาล พืชมงคล เจ้าของธรรมนิติสาธยายให้ความเห็นถึงบุคลิกชาดาได้อย่างดีว่า “ชาดาเขาเป็นคนของบรรหาร ศิลปอาชา และมั่นคงกับบรรหารมาก ก่อนปีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี พวกผมไปเชิญเข้าพรรคความหวังใหม่ด้วยเงื่อนไขที่ดีมาก แกไม่ยอมออกจากบรรหาร แม้คาดว่าจะต้องเป็นฝ่ายค้าน ผมยังนับถือนํ้าใจแก ชาดาคือ ผู้ที่มีลูกน้อง ส.ส. ในพรรคชาติไทยมากที่สุด คุมพรรคตัวจริง แต่แกเกรงใจคุณบรรหารมาก...

                สมัยทักษิณ ชินวัตร ทำสงครามยาเสพติด บีบนักการเมืองต่างจังหวัดเข้าพรรค ทรท. ได้มาก ตอนนี้โฟกัสลงไปที่ชาดา แต่เขาไม่ยอมจากบรรหาร ยอมเป็นจำเลย ติดคุก และสู้คดีจนชนะ

                ชาดา มีพลังมาก นายตำรวจในภาคกลางจดภาคเหนือเกรงใจมาก ปัจจุบันขยายเขตเครือข่ายเกือบทั่วภาคกลางและเริ่มขยายไปภาคเหนือ รุกฐานการเมืองเพื่อไทย ในวงการนักเลงไม่มีใครไม่เกรงใจชาดา

 

เซอร์ไพรส์ ‘ชาดา’ อะฮ้า! รมช.มหาดไทย

 

                มาถึงยุค คสช.นำทัพโดยนายกฯ ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับตั้งแต่ปี วันที่ 2557 ชาดาถูกตำรวจบุกค้นบ้าน ตรวจสอบ 3-4 ครั้งในรอบ 3 ปี ครั้งแรก 23 กรกฎาคม2558 ตำรวจกองปราบฯ เปิดยุทธการสะแกกรัง ปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างครั้งที่ 2 เมื่อวันที่12 เมษายน 2559 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณ์กุล รองผบ.ตร. นำตำรวจค้นบ้านผู้มีอิทธิพลถึงบ้านพัก

                ครั้งที่ 3 เมื่อ 23 มีนาคม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.เปิดยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใสตรวจผู้มีอิทธิพลในอุทัยธานี 30 จุด รวมถึงบ้านชาดาก่อนจะมาค้นรถจับชาดาพร้อมผู้ติดตามได้ปืนอาวุธจำนวนมากเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2560 ใช้กำลังตำรวจวิ่งไล่ล่าสะท้านเมืองนับ 100 นายเพื่อจัดการเจ้าพ่อลุ่มนํ้าสะแกกรัง แต่ชาดารอดมาได้ทุกกระทงความ

                บัดนาว ผู้มากบารมีและผองเพื่อน กำลังได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี หรีดหริ่งเรไรที่ร้องระงมในป่าดงพงไพรย่อมเงียบเสียง

                ในบริบทต่างๆ ดูเป็น “เจ้าพ่อ ชาดา” ดูน่าเกรงขาม แต่คนในอุทัยธานีล้วนนับถือ ว่ากันว่า ชาดามีรายได้มาเจือจานเลี้ยงดูคนทั้งจังหวัด ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ เคยสัมภาษณ์แบบถึงลูกถึงคนที่สปริงนิวส์ ช่อง 19 และยิงคำถามตรงเป้า ชนิดที่ใครก็ไม่กล้าถามผู้ทรงอิทธิพลหรือผู้กว้างขวาง

                ขอตัดภาพบางส่วนมา ดนัยถามว่าเจ้าพ่อชาดารวยมาจากไหนจึงเลี้ยงคนได้ทั้งจังหวัด

                ชาดาบอกว่า...คำถามนี้ดีครับ พ่อแม่ผมเสียชีวิตตั้งแต่ผมเป็นเด็กครับผมหากินมาตั้งแต่อายุ 14 ปี ท่าน ลองไปดูว่าคนที่อายุ 14 ปี ผมต้องมาอยู่จังหวัดอุทัยธานี โดยที่พ่อแม่ผมมีทรัพย์สิน มีฐานะนะครับ พ่อผมก็อดีตค้าควายต่างประเทศ แล้วพ่อแม่ก็มีฐานะซึ่งมีผู้จัดการมรดก เสียชีวิตแล้ว ผมทำมาหากินมาตั้งแต่อายุ 14 ปี เพื่อนรุ่นเดียวกันยังเรียนอยู่เลย

                ผมทำมาหากิน ค้าเนื้อ ค้าวัว ค้าควาย ทำทุกอย่าง อาชีพที่ผมทำ ทำไร่ก็ทำ ปลูกมันก็ปลูก แล้วผมไปซื้อวัวซื้อควายจากต่างจังหวัดมาขายในอุทัยฯ ถามว่าผมรวยอะไร ผมรวยมาจากทำมาหากินบริสุทธิ์ แล้วผมก็มาทำแพล้นปูน มาทำรับเหมาก่อสร้างอยู่พักหนึ่ง แล้วผมก็มองว่า อาชีพนี้ไม่ไหว เป็นเรื่องที่พวกนี้เพ้อเจ้อ

                ดนัยซักต่อว่า รับเหมาก่อสร้าง นี่เพ้อเจ้อเหรอครับ?

                ชาดา เพ้อเจ้อครับ ฝันแต่ลมนะครับ แล้วผมก็มองว่า ผมจะไปพนันกับเขา ไม่เอา ผมก็มาทำทราย ทำแพล้นปูน แล้วก็สิ่งที่สำคัญอาชีพหลักก็คือ เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ถามว่า ปัจจุบันที่ผมซื้อตัวละหมื่นกว่า เดี๋ยวนี้ตัวละสี่ห้าหมื่น เดี๋ยวนี้ตัวละล้านกว่า ผมทำมาหากินเรียกว่าทุกอาชีพ นี่กำลังจะทำแร่อีกครับ ขออนุญาตทำแร่ในที่ดินของตัวเองครับ ตีประเมินมาแล้ว 300 ล้านครับ นี่กำลังทำเรื่องขออยู่ แร่ที่ผมครอบครอง ที่ดินที่ผมครอบครอง ที่อำเภอบ้านไร่ครับ จังหวัดอุทัยธานี

                ดนัยซักว่าเป็นแร่อะไรครับ?

                ชาดา เป็นแร่มัน ดีบุกบ้าง และก็มีอะไรอีกหลายอย่างครับ แล้วแต่ผมขอครอบครอง มันเป็นกองทราย และเป็นแร่ดีบุกเก่า เป็นที่เหมืองแร่เก่า ลูกชายผม (ฟารุต ไทยเศรษฐ์) ซื้อที่ดินไว้ แล้วผมรับโอนมาจากลูกชาย ตอนนี้ลูกชายเสียชีวิตแล้ว

                ดนัยถามตรงเป้าอีกว่า นี่คือธุรกิจใหม่ที่ต่อยอดจากความรํ่ารวย ก็คือรวยแล้วจะไปทำเหมืองแต่ไอ้ความรํ่ารวยที่มีอยู่ ที่สังคมเขาคาใจนั้น มาจากการค้าวัวค้าควาย?

                ครับผม ผมทำหลายอาชีพครับ ทำรถตู้ รถตู้ผมก็ทำ แล้วก็เดี๋ยวนี้รถตู้ก็ถูก คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) สั่งให้ถูกต้องตามกฎหมาย ผมก็ทำถูกต้องตามกฎหมาย

                ดนัยถาม อะไรเป็นรายได้หลักดีกว่า?

                ชาดา...รายได้หลักก็มาจากการค้าเนื้อ แล้วก็ทำแพล้นปูน แต่จริงๆ ก็เป็นเรื่องของธุรกิจวัวควาย

                เห็นตัวตนคนเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยแล้วอ้าปากค้าง เหมือน พรานฯ บ่อ้าย...