เทควอร์ตึงเครียด กูเกิ้ล-นินเทนโด-วิสตรอน จ่อโยกฐานการผลิตออกจากจีน

13 มิ.ย. 2562 | 07:03 น.

บริษัทไฮเทคสหรัฐฯ เริ่มเล็งทางหนีทีไล่หากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯยืดเยื้อ ผลกระทบกำแพงภาษีทำผลกำไรหดหาย หลายรายเตรียมโยกย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไปยังไต้หวันหรือประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่ารัฐบาลจีนจะประกาศเตือนไว้แล้วว่า บริษัทที่ให้ความร่วมมือกับนโยบายกีดกันจีนของรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ระวังผลที่จะตามมาในระยะยาว

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การตั้งกำแพงภาษีใส่กันระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจของทั้งสองประเทศจำเป็นต้องวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาวในการหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการจากสหรัฐฯ ซึ่งจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆที่รัฐบาลประกาศออกมา รวมถึงการห้ามค้าขายสินค้าเทคโนโลยีกับบริษัทจีนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำ (Entity List) ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯด้วย  

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

จากการรายงานข่าวของสำนักข่าวบลูมเบิร์กพบว่า บริษัทชั้นนำด้านไฮเทคของสหรัฐฯที่เข้าไปลงทุนตั้งฐานการผลิตอยู่ในจีนเริ่มเตรียมการโยกย้ายฐานการผลิตบางส่วนกันแล้ว เช่น กูเกิ้ล กำลังโยกย้ายฐานการผลิตเทอร์โมสแตทและแผงวงจรหลัก ที่โรงงานอยู่ในจีนและมุ่งผลิตส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ให้ย้ายไปผลิตในไต้หวันแทน  เร็วๆนี้  ยังมีรายงานข่าวจากเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ด้วยว่า บริษัท นินเทนโด ผู้ผลิตอุปกรณ์และเกมคอมพิวเตอร์ กำลังโยกย้ายโรงงานผลิตคอนโซลเกม ถ้าไม่ทั้งหมด ก็เป็นบางส่วน ออกจากจีนไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เกิดขึ้นแม้ว่ารัฐบาลจีนจะได้ออกมาประกาศเตือนไว้แล้วว่า บริษัทที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯในการกดดันจีน ให้ระวังผลลัพธ์ที่จะติดตามมาในระยะยาว

 

ในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา สหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนจาก 10% เป็น 25% วงเงิน 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครอบคลุมสินค้าหลากประเภท รวมทั้งบรรดาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่นแผงวงจรหลัก สมาร์ทโฟน คอนโซลของวิดีโอเกม และคอมพิวเตอร์ ที่เข้าข่ายต้องถูกเรียกเก็บภาษี 25% และหากเป็นเช่นนั้น คอนโซลเกมของนินเทนโดที่ผลิตในจีนและส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯที่มีกำแพงภาษีสูงขึ้น อาจถูกบีบให้ต้องขายสินค้าในราคาขาดทุน

บางบริษัทยอมรับว่า เตรียมพร้อมแล้วหากสถานการณ์บีบบังคับ ก็เชื่อว่าจะรับมือได้ดี ตัวอย่างเช่น บริษัท แอปเปิ้ล ที่เป็นหุ้นส่วนกับ ฟ็อกคอนน์ เทคโนโลยี กรุ๊ป ผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดจากไต้หวันและเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์ไอโฟนให้กับแอปเปิ้ล  ผู้บริหารของแอปเปิ้ลยอมรับว่า ถ้าหากสถานการณ์บีบบังคับ บริษัทก็สามารถผลิตไอโฟนทั้งหมดนอกประเทศจีน

เทควอร์ตึงเครียด กูเกิ้ล-นินเทนโด-วิสตรอน จ่อโยกฐานการผลิตออกจากจีน

บริษัทอเมริกันอีกราย คือ วิสตรอน คอร์ป. ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ป้อนให้กับบริษัทเฟสบุ๊ค และไมโครซอฟท์ เป็นผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีอีกรายที่มีรายงานข่าวว่า กำลังมีแผนโยกย้ายฐานการผลิตบางส่วนออกจากจีน แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดมากกว่านี้

เทควอร์ตึงเครียด กูเกิ้ล-นินเทนโด-วิสตรอน จ่อโยกฐานการผลิตออกจากจีน

หันมาดูบริษัทของจีนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ รายที่เด่นชัดที่สุดก็คือ หัวเว่ยฯ เพราะนอกจากจะเจอมาตรการกดดันจากสหรัฐฯทำให้ไม่ได้สามารถซื้อชิปหรือเซมิคอนดัคเตอร์จากบริษัทผู้ผลิตของสหรัฐฯแล้ว บริษัทกำลังจะถูกตัดขาดการสนับสนุนจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของบริษัทกูเกิ้ล ในเครืออัลฟาเบ็ท  (แต่ขณะนี้อยู่ในระยะยืดหยุ่น ให้เวลาปรับตัว 90 วัน) สถานการณ์เช่นนี้ทำให้หัวเว่ยฯชะลอการผลิตลง มีรายงานข่าวในเซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ สื่อใหญ่ของฮ่องกง ว่า ฟ็อกซ์คอนน์ซึ่งเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนป้อนให้กับหัวเว่ยฯเช่นกัน ได้ชะลอการผลิตลงเพื่อให้สอดคล้องกับยอดสั่งซื้อที่ลดลง

 

การเผชิญหน้าทางการค้าที่ไม่มีความแน่นอน  ทั้งยังมีแนวโน้มพัฒนาไปในทางลบมากขึ้นนั้น ทำให้บริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกต้องตื่นตัวและพร้อมตั้งรับ-ปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ที่แปรเปลี่ยน โดยเฉพาะในแวดวงอุตสาหกรรมไฮเทคนั้น เห็นได้ชัดว่าสงครามการค้าที่เกิดขึ้นกำลังพัฒนาจาก trade war เป็น tech war หรือสงครามในอุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งกำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์