"พลังประชารัฐ"เรียกประชุม27ส.ส.เข้าข่ายถือหุ้นสื่อ หลัง"อนาคตใหม่ "ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตั้ง"ทศพล เพ็งส้ม"รวบรวมเอกสาร วิเคราะห์แนวทางชี้แจงรายบุคคล นัดหารืออีกครั้ง18 มิ.ย.62
วันที่ 13 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าได้ลงนามในหนังสือส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ตามคำร้องที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เข้าชื่อให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.ที่อาจเข้าข่ายถือหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน รวม 41 คน โดยแบ่งเป็น พรรคพลังประชารัฐ 27 คน , พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 คน , พรรคประชาภิวัฒน์ 1 คน , พรรคชาติพัฒนา 1 คน , พรรคประชาธิปัตย์ 10 คน และพรรคภูมิใจไทย 1 คน
สำหรับบรรยากาศที่พรรคพลังประชารัฐวันนี้ ได้มีการเรียกประชุม ส.ส.ที่ถูกร้องกรณีถือหุ้นสื่อเข้าหารือ ซึ่งมีรายงานข่าวว่า พรรคได้มอบหมายให้ นายทศพล เพ็งส้ม อดีตผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี เป็นผู้รับผิดชอบรวบรวมเอกสารหลักฐาน พร้อมจัดทำข้อมูลไว้เตรียมชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ หากมีการรับคำร้องกรณีดังกล่าว โดย 27 ส.ส.ที่ถูกร้องว่าถือหุ้นสื่อ จะถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ตามการจดแจ้งวัตถุประสงค์ในบริคณห์สนธิของบริษัท ประกอบด้วย 1.กลุ่มประกอบกิจการโรงพิมพ์ หนังสือพิมพ์ ประชาสัมพันธ์ วิทยุโทรทัศน์ หรือสื่อสารมวลชนทุกชนิด 2.กลุ่มที่จดแจ้งว่าประกอบกิจการค้ากระดาษ เครื่องเขียน แบบเขียน และ 3.กลุ่มที่ประกอบกิจการจัดเก็บ รวบรวม และเผยแพร่ข้อมูลสถิติ ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้แต่ละคนไปรวบรวมเอกสารหลักฐาน ก่อนนำมาวิเคราะห์แนวทางการชี้แจงรายบุคคล พร้อมนัดหมายหารือกันอีกครั้งในวันที่ 18 มิ.ย.62
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้คาดการณ์แนวทางการชี้แจงไว้หลายประเด็น เช่น การตีความคำว่า สื่อสารมวลชน รวมถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ 27 ส.ส.ของพรรคไม่มีใครถือใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสื่อจริง แต่มีการประเมินว่า กลุ่มที่น่าจะต้องเตรียมพยานหลักฐานให้ครอบคลุมที่สุด คือ กลุ่มที่จดแจ้งวัตถุประสงค์ว่า ประกอบกิจการสื่อสารมวลชน เพราะเนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับกรณี นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร พรรคอนาคตใหม่ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สั่งให้ถอนชื่อออกจากผู้สมัคร เพราะขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.จากการถือหุ้นสื่อเช่นเดียวกัน