ประมงตื่น!!ห้ามแรงงานต่างด้าวขึ้นเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ

โวยกรมเจ้าท่า งัด พ.ร.บ.เรือไทย พ.ศ. 2481 มาตรา 50 ห้ามแรงงานต่างด้าวขึ้นเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ นายกสมุทรปราการ” เผยกว่า 90 ลำ-ยังไม่นับเรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโยงเอี่ยวเข้ากฎหมาย คาดกรมเจ้าท่าจะประกาศในราชกิจจาฯ ในเร็วๆนี้ ด้าน “สุรเดช”ชี้แรงงานก็ขาด ยังโดนซ้ำเติมกฎเหล็กนี้ เล็งมาตรฐานปลาสดลดลง ผวาปลาเทศทะลักเพิ่มขึ้น

นายพิชัย แซ่ซิ้ม นายกสมาคมการประมงสมุทรปราการ  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในวันนี้ ( 15 มิ.ย.) ทางสมาคมสมุทรปราการจะเรียกสมาชิกมาเข้าร่วมประชุม เพื่อหารือที่จะไปประชุมใหญ่ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ที่ตลาดทะเลไท ซึ่งหัวข้อหลัก จะ 7 ประเด็นให้รัฐบาลแก้ไข ได้แก่ 1.เรื่องกฎหมาย พ.ร.ก..การประมงฯ ทั้ง 2 ฉบับ 2.แรงงานขาดแคลน 3.ราคาสัตว์น้ำตกต่ำ 4.เร่งชดเชยเยียวยาประมงทีได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาไอยูยู เป็นต้น ส่วนประเด็นใหม่ ได้รับข่าวจากกรมเจ้าท่าว่าจะมีการประกาศใช้ การแจ้งเข้า ออก เรือขนถ่ายสัตว์น้ำแบบอิเลคทรอนิคส์ แล้วจะประกาศในราชกิจจาในเร็วๆนีั ตามพระราชบัญญัติเรือไทย พ.ศ. 2481 มาตรา 50 คนประจำเรือไทยที่ได้จดทะเบียนตามความในมาตรา 7 ซึ่งสามารถทำการค้าในน่านน้ำไทยได้ทุกคนต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น

ถ้าเป็นเรือประมงจะมีใบสำคัญการตรวจเรือ (ตร.) คำว่า “แรงงานประมง” แต่ถ้าในใบขนถ่ายสัตว์น้ำมีใบ ตร.เช่นเดียวกัน เขียนคำว่า คนประจำเรือ และผู้โดยสาร เท่านั้น และ จำนวนคนประจำเรือ/ผู้โดยสารไม่เกินกี่คน ใบนี้ไม่มีคำว่าแรงงาน จากปัญหาดังกล่าวนี้ หากมีคนไปร้องว่าทำผิดกฎหมายจะทำอย่างไร เนื่องจากปัจจุบันนี้ยังมีแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ แต่ในอนาคตนี้อีกไม่นาน ต่อไปจะต้องมีระบบแจ้งเข้าออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่างจะต้องถูกต้องทั้งหมด ปัจจุบันเรือกลุ่มเสี่ยงมีกว่า 90 ลำ ใน 22 จังหวัด ยังไม่นับเรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อาทิ เลี้ยงหอยแมลงภู่ก็โดนเอี่ยวโยงกฎหมายด้วย เพราะจัดเป็นกลุ่มเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต คาดว่าจะประกาศในราชกิจจาเร็วๆนี้

สอดคล้องกับนายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา  กล่าวว่า จังหวัดสงขลาตอนนี้โดนแล้วระเบียบดังกล่าวนี้มาใช้ส่งผลทำให้แรงงานค่อยขาดหายไปเรื่อยจากกฎระเบียบดังกล่าวนี้ ต่างด้าวจะโดนอัปเปหิออกไปเรื่อยๆ ดังนั้นกระทรวงแรงงานไม่ใช่หน่วยงานเดียว ประมงยังมีกฎหมายอื่นๆ ที่จะต้องทำให้แรงงานออกจากระบบ ดังนั้นก็ควรที่จะมีการบูรณาการด้านกฎหมายด้วย

“วันนี้ทุกชนิดเครื่องมือประมง ขาดแรงงานอยู่แล้ว และถ้ามาขาดแคลนในเรือขนถ่ายสัตว์น้ำด้วยจะทำให้แรงงานต่างด้าวเริ่มทยอยกลับ 1.จะต้องแก้กฎหมาย 2.จะต้องให้กรมเจ้าท่าผ่อนปรน หรือไม่ก็แก้คำประกาศเพิ่มให้แรงงานต่างด้าวทำงานที่เรือขนถ่ายสัตว์น้ำได้ และถ้าผิดเพี้ยนอย่างไรกรมเจ้าท่าต้องแก้เปลี่ยนประเภทเรือที่จะสามารถจ้างแรงงานคละได้ทั้งคนไทยและต่างด้าว ฝากการบ้านให้กรมเจ้าท่าช่วยหาทางแก้ไข แล้วในขณะนี้ก็ใช้วิธีขอร้องให้เรือลูกค้าที่จะมาซื้อสินค้าช่วยทำ เพื่อให้งานดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ เพราะเวลาของที่เค้ามาด้วยกำลังแรงงานที่ลดลงไป 70% ของจะไม่สด ถูกตีกลับ ไม่มีคุณภาพ จะกลายเป็นปัญหาเสียที่การขนส่ง”

นายสุรเดช กล่าวอีกว่า ไม่ใช่คนไม่อยากที่จะทำงาน แต่ขั้นตอนเยอะมาก แรงงานคนไทย และแรงงานต่างด้าวที่มีฝีมือไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน 80% อย่างประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีความสะดวกในการทำงานมากกว่า คือ ไทยใช้มาตรการทางกฎหมายมากเกินไป มองว่าชาวประมงเป็นผู้กระทำความผิด ดังนั้นการแก้ปัญหาของผู้ที่กระทำความผิดก็คือการออกกฎหมาย ป้องปราม แต่ไม่มองในมุมกลับว่าการแก้ปัญหาผู้กระทำความผิด จะต้องให้ความรู้ความเข้าใจ แต่มาตรการทางกฎหมายมีผลเห็นทันตา กลายเป็นภาระ แต่การให้ความรู้ความเข้าใจใช้ระยะเวลา

“จากผลดังกล่าวหากมีกฎหมายบังคับใช้จะส่งผลทำให้การนำเข้าสินค้าทะเลของเพื่อนบ้านจะเพิ่มมากขึ้น เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นขอเสนอให้รัฐบาลต้องลงมาเดินดูผลกระทบปริมาณสินค้าที่เพื่อนบ้านไหลเข้ามามากขนาดไหนไม่ใช่ดูจาก "รายงาน" อยากจะบอกว่าในรายงานต่างจาก "ความเป็นจริง!!” อย่างไรก็ดีเรื่องดังกล่าวนี้จะหารือในกันในวันที่ 28 มิ.ย.นีัตลาดทะเลไท เป็นปัญหาใหม่ใหญ่กว่าเดิม