เซ็นทรัลรุกอาเซียนสยายปีกคลุมรีจินัล

21 มิ.ย. 2562 | 04:57 น.

“เซ็นทรัล” ผสานรีเทล 3 ประเทศ ไทย-มาเลเซีย-เวียดนาม สู่ “Regional Retail Platform” หวังเป็นช่องทางแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในอาเซียน นำร่อง “เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ มาเลเซีย” สยายปีกลงทุนเพิ่ม

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีวิสัยทัศน์สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมกับการก้าวขึ้นสู่ความเป็น International Shopping Center โดยเริ่มจากสร้างการเติบโตในระดับอาเซียนที่เริ่มจากไทยจนขยายไปสู่ภูมิภาค ในการขยายการลงทุนโครงการของศูนย์ในการสร้างแพลตฟอร์มการเชื่อมโยงเครือข่ายรีเทลในอาเซียน ภายใต้โรดแมป “Central to ASEAN” สู่ความเป็น “Regional Retail Platform” ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการศูนย์การค้าเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ มาเลเซีย อย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงที่ผ่านมา

โดยเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้เป็นการลงทุนโครงการแรกของซีพีเอ็นในต่างประเทศ โดยเป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่มีทั้งคอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ และโรงแรม ภายใต้การร่วมทุนเปิดในต่างประเทศ โดยซีพีเอ็น ถือหุ้น 60% กับทางไอ-เบอร์ฮาด ถือหุ้น 40% ด้วยมูลค่าการลงทุน 8,500 ล้านบาท พื้นที่ 28 ไร่ และตั้งอยู่ในโครงการ ไอ-ซิตี้ อัลตราโพลิส ไลฟ์สไตล์ ฮับ ในเมืองชาห์อาลัม รัฐสลังงอร์ มาเลเซีย โดยแผนงานต่อไปบริษัทจะยังคงเดินหน้าขยายสาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลในมาเลเซียสาขา 2 อย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นบริษัทได้มีการศึกษาโลเกชันใน 2 แห่งหลัก ซึ่งแน่นอนว่าทางกลุ่มก็พร้อมที่จะเปิดรับพันธมิตรในการลงทุนที่หลากหลาย โดยไม่จำเป็นต้องผูกขาดเพียงรายใดรายหนึ่ง

 

“มาเลเซียถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางการเติบโตสูงในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่แล้ว ความหลากหลายเชื้อชาติ ขณะเดียวกันมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาท่องเที่ยวในไทยมากเป็นอันดับที่ 2 รองจาก จีน หรือประมาณ 4 ล้านคนต่อปี ทำให้คนมาเลเซียมีความคุ้นเคยต่อแบรนด์และอาหารไทย เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากแบรนด์ไทยทั้ง คาเฟ่ อเมซอน, ชาตรามือ,ชาพะยอม ฯลฯ แล้วยังมีกลุ่มธุรกิจอาหารในเครือทั้ง ซีอาร์จี และเซ็น กรุ๊ป ให้ความสนใจในการนำร้านอาหารเข้ามาเปิดให้บริการภายในศูนย์ให้เพิ่มเติมอีกด้วย”

เซ็นทรัลรุกอาเซียนสยายปีกคลุมรีจินัล

พร้อมกันนี้บริษัทยังเตรียมขยายการลงทุนของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเข้าไปในประเทศเวียดนาม อยู่ระหว่าง อยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ตเนอร์ควบคู่กับศึกษาเรื่องของที่ดินในการก่อสร้างศูนย์ โดยมีพื้นที่ที่เป็นที่น่าพอใจในเวียดนามอยู่ 2 แห่ง เบื้องต้นยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีกำหนดก่อสร้างและเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไร เนื่องจากในเวียดนามมีข้อกำหนดและกฎหมายค่อนข้างละเอียดอ่อน และต้องใช้เวลานานในการศึกษาข้อมูล ซึ่งบริษัทต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้องและโปร่งใสมากที่สุดตามนโยบายของบริษัทในการขยายการลงทุน

 

“บริษัทมีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายของธุรกิจศูนย์การค้าสู่ความเป็น “Regional Retail Platform” ในการเป็นช่องทางแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการสำหรับผู้ประกอบการในระดับภูมิภาค ผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายของศูนย์การค้า ซึ่งจะเริ่มจากตัวศูนย์ที่จะเกิดขึ้นใน 3 ประเทศอย่าง ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม ในการเชื่อมโยงกันในเขตเศรษฐกิจ เช่น สินค้าไทยไปมาเลเซีย, สินค้ามาเลย์ไปเวียดนาม, สินค้าเวียดนามมาไทย เป็นต้น โดยแพลตฟอร์มนี้จะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง รองรับการเติบโตของธุรกิจต่างๆ รวมทั้งยังสามารถช่วยเหลือกลุ่ม SMEs โดยมีซีพีเอ็นเป็นผู้ปูทางให้ไม่ต้องให้ผู้ประกอบการหาช่องทางเอง ทั้งนี้เราต้องการเป็นเสมือนแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของประเทศไทยในต่างแดน ที่ช่วยส่งเสริมสินค้าไทย และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวให้ประเทศไทยอีก
ด้วย ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของการเป็นผู้เล่นในระดับอาเซียน”

อย่างไรก็ตามสำหรับศูนย์การค้าเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ มาเลเซีย เป็นศูนย์การค้าลำดับที่ 34 ของซีพีเอ็น และเป็นแห่งแรกที่ขยายออกนอกประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาราว 7-9 ปีในการคืนทุน โดยปัจจุบันมีผู้เข้ามาใช้บริการในศูนย์ราว 5 หมื่นคนต่อวัน และเปิดให้บริการไปแล้ว 60% โดยในช่วงปลายปีนี้จะเปิดให้บริการเพิ่มเป็น 85% 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3480 ระหว่างวันที่ 20-22 มิถุนายน 2562