ถึงคิว‘พี่ใหญ่’โชว์พลังคุ้มกันวงอาเซียน

“ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” คือสโลแกนของการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ที่ประเทศไทย ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายนนี้ ที่มหานครกรุงเทพฯ

การประชุมรอบนี้เบาใจได้นิดหน่อย เพราะยังไม่ใช่รอบเวทีที่ผู้นำมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย มาร่วม เพราะโปรแกรมนั้นจะอยู่ช่วงประชุมอีกรอบในเดือนพฤศจิกายน ในเวทีอาเซียน

แต่กระนั้นด้วยความเป็นเจ้าภาพของไทยเราที่วนมาอีกคำรบในรอบ 10 ปี ก็ต้องจัดงานให้เนี้ยบที่สุดทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการรักษาความปลอดภัย เพื่อไม่ให้ซํ้ารอยกับ 10 ปีที่แล้วกับวงประชุมอาเซียนที่พัทยา

ภารกิจนี้จึงเป็นหน้าที่ของพี่ใหญ่แห่ง คสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เหมาะสมอย่างยิ่งในนาทีนี้ ที่ต้องผนึกกำลังของฝ่ายมั่นคง ตำรวจ ทหาร อย่างเข้มข้นในช่วงรอยต่อของรัฐบาลแบบนี้

ในวงประชุมคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจรในการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง พล.อ.ประวิตร สั่งการตอนหนึ่งในการประชุมว่า “ผมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เตรียมการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกประการ ซึ่งวันนี้เป็นการเปิดกองอำนวยการร่วมเป็นวันแรก และจะปฏิบัติงานไปตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงวันที่ 24 มิถุนายนนี้

ขอให้หน่วยงานวางแผนหมุนเวียนกำลังพลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และต่อเนื่อง สำหรับการประชุมในวันนี้ แต่ละหน่วยรายงานสรุปความพร้อม ของการซักซ้อมในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทั้งแผนการปฏิบัติ การส่งกลับ การเคลื่อนย้ายทางอากาศ และการระบายนํ้าในพื้นที่”

ซึ่งก่อนหน้านั้น พล.อ.ประวิตร ได้ประชุมกับฝ่ายความมั่นคงมาแล้วหลายนัด และได้กำชับทุกหน่วยงาน “ให้นำบทเรียนจากการทำงานที่ผ่านมา เป็นกรณีศึกษา ไม่ให้เกิดเงื่อนไขหรือเหตุการณ์ดังเช่นอดีตที่เกิดขึ้น ต้องให้ความสำคัญและเพิ่มความเข้มงานด้านการข่าว โดยไม่ประมาท มีมาตรการเชิงรุกด้านการข่าวและการดำเนินการที่เหมาะสม เป็นสากลและชอบด้วยกฎหมาย”

ในเชิงนโยบายก็ต้องฟัง “บิ๊กป้อม” แต่ในเชิงลึกแบบการข่าวก็ต้องสอบถามกับ อาจารย์ปณิธาน วัฒนายากร ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาของ พล.อ.ประวิตร เล่าให้ฟังว่า สถานการณ์ทั่วไปปกติดี แต่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ อาจจะมากขึ้น เพราะมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นและกฎระเบียบต่างๆ ที่ผ่อนคลายลง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเริ่มมีการผลักดันให้เกิดการชุมนุมที่ล่อแหลมต่อกฎหมาย หรือกระทบต่องานสำคัญ เช่น การประชุมอาเซียน ซึ่งมีการเตรียมการรองรับอยู่แล้ว แต่วันนี้ยังไม่มีข้อกังวลอะไร เพียงแต่การประเมินสถานการณ์จะต้องละเอียดขึ้น

ที่ปรึกษาของบิ๊กป้อม บอกถึงกลุ่มการเมืองทั้งหลายด้วยว่า ต้องแยกให้ออกอะไรคือกิจกรรมทางการเมืองที่คนกำลังตื่นตัว ก็ต้องเปิดกว้างและผลักดันให้อยู่ในกรอบปกติ แต่อะไรที่เป็นการปลุกระดุมเพื่อให้เกิดการเผชิหน้ากันเป็นการชุมนุมขนาดใหญ่ผิดพระราชบัญญัติชุมนุมสาธารณะก็มีมาตรการอยู่

ว่ากันว่า นี่เป็นอีกงานส่งท้ายที่วัดขุมกำลังบิ๊กป้อม ก่อนส่งไม้รัฐบาลใหม่ ที่ตัวเองยอมนั่งเพียงเก้าอี้รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง แล้วปล่อยให้ “บิ๊กตู่” น้องชายสุดเลิฟควบกลาโหมแทน 

อินไซด์สนามข่าว โดย จีรพงษ์ ประเสริญพลกรัง

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3480 ระหว่างวันที่ 20 - 22 มิถุนายน 2562