การกลับมาซื้อขายชั่วคราว ของหุ้นที่ติดเครื่องหมาย SP

23 มิ.ย. 2562 | 03:50 น.

 

 

 

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีการปรับเกณฑ์การขึ้นเครื่องหมาย SP ใหม่ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้หุ้นที่จะติดเครื่องหมาย SP หรือถูกเพิกถอนได้มีโอกาสให้นักลงทุนได้มีการขายหุ้นออกมา ทําให้มีการประกาศรายชื่อหุ้นเดิมที่ติดเครื่องหมายอยู่ จะมีการปลดเครื่องหมาย SP ชั่วคราวในเดือนกรกฎาคมตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม ก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมายอีก ครั้งในวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อให้นักลงทุนได้มีโอกาสในการปรับตัว และเพื่อให้ราคาหุ้นสะท้อนสถานการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น รายชื่อหุ้นที่ตลาดจะมีการปลดเครื่องหมาย SP ชั่วคราว 16 ตัว ได้แก่ A5, BLISS, BUI, CHUO, EARTH, GSTEL, IFEC, KC, KTECH, NBC, NMG, POLAR, PRO, STHAI, TSF, WR

นอกจากนี้จะมีหุ้นอีกกลุ่มที่ได้รับการปลดเครื่องหมาย SP ชั่วคราวในวันที่ 1-9 กรกฎาคมก่อนที่จะยกเลิกสถานะการเป็นบริษัทจดทะเบียนในวันที่ 10 กรกฎาคม ได้แก่ IEC, LVT และ YNP

โดยหุ้นที่ได้รับการปลดเครื่องหมาย SP จะกลับมาซื้อขายโดยเงื่อนไขคือ 1) ต้องใช้บัญชี Cash Balance ในการซื้อเท่านั้น 2) ตลท. จะขึ้นเครื่องหมาย NC ตลอดเวลาเพื่อเตือนนักลงทุน 3) ในวันที่ 1 กรกฎาคมการซื้อขายจะไม่มีการกำหนดราคาขั้นสูงและขั้นตํ่า เนื่องจากไม่มีการซื้อขายมาเป็นเวลานาน 4) หุ้นที่กลับมาจะไม่ส่งผลต่อการ คำนวณดัชนี SET หรือ MAI

การกลับมาซื้อขายชั่วคราว ของหุ้นที่ติดเครื่องหมาย SP

เงื่อนไขในการปลดเครื่องหมายสำหรับหุ้นที่มีปัญหาด้านการดำเนินงาน ประกอบไปด้วยเกณฑ์ 6 ข้อคือ 1) ส่วนของผู้ถือหุ้นเกิน 20 ล้านบาท สำหรับ MAI และ 300 ล้านบาท สำหรับ SET 2) การดำเนินงานภายใต้ผู้บริหารกลุ่มเดิมมีผลกำไรจากการดำเนินต่อเนื่องไม่ตํ่ากว่า 1 ปีและสำหรับ SET จะต้องมีกำไรมากกว่า 30 ล้านบาท 3) มีการแก้ปัญหาหนี้สินและปรับโครงสร้างหนี้เรียบร้อย 4) มีฐานะและผลการดำเนินงานที่มั่นคง โดยพิจารณาจากกระแสเงินสด 5) มีคุณสมบัติการดำรงสถานะการเป็นบริษัทจดทะเบียน ยกเว้นแผนการกระจายหุ้น แต่ต้องมีแผนแก้ไข และ 6) กรณีบริษัทฟื้นฟูกิจการภายใต้ศาลล้มละลาย ต้องออกจากการฟื้นฟูกิจการ ด้วยการฟื้นฟูกิจการเป็นผลสำเร็จ

การกลับมาซื้อขายชั่วคราว ของหุ้นที่ติดเครื่องหมาย SP

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้ และต้องการการเก็งกำไรในหุ้นที่มีโอกาสถูกปลด SP ในอนาคตมีหุ้นที่เข้าข่าย 3 ตัว ประกอบไปด้วย PRO เป็นหุ้นที่มีผลประกอบการมีกำไร 3 ปีต่อเนื่อง พร้อมทั้งเพิ่มขึ้น YoY (ส่วนของผู้ ถือหุ้นใน 1Q19 เกิน 300 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเกิน 30 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา), BLISS เป็นหุ้นที่มีผลประกอบการดีขึ้นต่อเนื่อง และพลิกจากขาดทุนในปี 2016-2017 และ BUI เป็นหุ้นที่มีผลประกอบการกำไรมา 3 ปีต่อเนื่อง (กำไรปี 2018 ยังไม่ผ่านเกณฑ์ 30 ล้านบาท) 

รายงานหน้าตลาดทุน โดย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,481 วันที่ 23 - 26 มิถุนายน พ.ศ. 2562

การกลับมาซื้อขายชั่วคราว ของหุ้นที่ติดเครื่องหมาย SP