ยกเหตุเครนถล่มวาระเร่งด่วนผู้ตรวจการฯตั้งคณะทำงานหาแนวทางป้องกัน

จากกรณีเกิดเหตุเครนยกแผ่นเหล็กก่อสร้างโครงการปรับปรุงอาคารชุด 20 ชั้นของโรงแรมริเวอร์การ์เด้นถล่ม ทำให้แผ่นเหล็ก รวมทั้งเศษวัสดุตกใส่อาคารเอนกประสงค์โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บนับสิบรายนั้น

วันนี้ (24 มิถุนายน) นายกีรป กฤตธีรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า จากที่ปรากฎเป็นข่าวแม้ว่าเหตุการณ์นี้ไม่สูญเสียชีวิตแต่ส่งผลอย่างร้ายแรงต่อครอบครัวผู้เสียหายทั้งสภาพจิตใจภาระที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาล และอนาคตต่อไปของนักเรียน อีกทั้งทรัพย์สินของผู้ที่อยู่อาศัยโดยรอบทั้งบ้านเรือน ชุมชน และวัดเสียหายเป็นจำนวนมากซึ่งเกิดขึ้นเป็นระยะ

วันนี้จึงลงพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมดโดยประชุมร่วมกับ ผู้แทนสำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ (บางรัก) และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันหาแนวทาง สร้างระบบ และวางมาตรการด้านความปลอดภัยให้รัดกุมและเข้มขึ้น รวมทั้งสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายให้จริงจังมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาเสี่ยงอันตรายจากอุบัติเหตุการก่อสร้างซึ่งไม่เพียงแต่โครงการนี้ยังรวมถึงโครงการต่างๆที่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับอนุญาตในเขตพื้นที่โดยรอบกรุงเทพมหานครให้เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ

เนื่องจากที่ผ่านมาปรากฏอุบัติเหตุเช่นนี้บ่อยครั้ง ทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว กรุงเทพมหานคร เป็นเขตชุมชนเมืองมีที่พักอาศัยหนาแน่น รวมถึงการคมนาคมและสัญจรในชีวิตประจำวัน ซึ่งซอยและถนนหลายเส้นต้องผ่านสถานที่ก่อสร้างต่างๆ ดังนั้น เพื่อระงับความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และลดปริมาณเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวโยงกับปัญหาการก่อสร้างต่างๆมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมักจะปรากฏข้อเท็จจริงว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐมักจะละเว้นเพิกเฉยหรือปล่อยปละละเลยต่อการตรวจสอบควบคุม ต้องมีการสอดส่องดูแลอย่างจริงจังโดยเฉพาะพวกที่ฝ่าฝืนกฎหมายและสร้างความเดือดร้อนทุกกรณี

ผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงมอบหมายให้ดำเนินการเป็นวาระเร่งด่วนโดยจัดตั้งคณะทำงานดำเนินการเร่งหาแนวทางแก้ไขเชิงระบบทั้งเรื่องการก่อสร้างอาคารสูงและรถไฟฟ้าในเขตชุมชนของกรุงเทพมหานครเพื่อเสนอต่อเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินให้ความเป็นธรรมต่อไป

นายกีรป ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากเครนก่อสร้างตลอด 4 ปีที่ผ่านมาตามรายงานของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พบว่า มีกว่า 20 ครั้ง สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและเสียหายต่อทรัพย์สินมากมายอาจมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณการก่อสร้างและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียม โรงแรม รวมไปถึงโครงการขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้า ดังนั้น ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องควรร่วมรับผิดชอบแก้ไขให้ความสำคัญเข้มงวดจริงจังเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า