ข่าวดี!! อีก 30 วัน รู้ผลสลากรูปแบบใหม่
บอร์ดสลากไฟเขียว ตั้งคณะทำงาน ศึกษาสลากรูปแบบใหม่ ใน 30 วัน ชูรางวัลแจ็คพ็อตใหญ่ เตรียมเสนอครม.ใหม่ภายใน ต.ค.
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรรมการ(บอร์ด)สลากมีมติให้ตั้งคณะทำงาน ศึกษารูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ได้ข้อสรุปใน 1 เดือน เนื่องจากอยากให้มีความเหมาะสมกับเทคโนโลยีในปัจจุบันและอนาคต แม้จะมีการศึกษามาแล้วก่อนหน้านี้ในบางรูปแบบ แต่ต้องนำมาดูรายละเอียดอีกครั้งทั้งข้อระเบียบ ข้อกฎหมายให้มีความชัดเจน โดยแนวทางที่จะเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหม่และรัฐบาลชุดใหม่ จะต้องตอบโจทย์ทั้งการแก้ไข้ปัญหาหวยใต้ดิน และการขายสลากเกินราคา แต่ทั้งนี้ยังไม่สรุปว่าจะออกมาในรูปแบบใด ซึ่งทั้งหมดจะเร่งสรุปข้อศึกษา และดำเนินการให้ทันในปีงบประมาณ 2563
นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลกล่าวว่า บอร์ดสลากให้ศึกษาการออกสลากทุกรูปแบบ ทั้งการออกสลาก 2 ตัว 3 ตัว หรือ 4 ตัว 5 ตัว รวมถึงการออกล็อตโต้ด้วย หรือแม้แต่การออกสลากแบบไม่ใช่ตัวเลข โดยอาจจะเป็นรูปภาพหรือตัวหนังสือแทน รวมถึงการออกรางวัลแจ็คพ็อต ซึ่งทั้งหมดสำนักงานสลากฯ จะต้องศึกษาจากการออกสลากของประเทศเพื่อนบ้านด้วยว่าเป็นอย่างไร เชื่อว่าการออกสลากรูปแบบใหม่นั้น จะทำให้ปริมาณการซื้อหวยใต้ดินลดลง 50,000-100,000 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันที่มีมูลค่ากว่า 500,000 ล้านบาทต่อปี
“บอร์ดให้ศึกษาและมีข้อสรุปกลับมานำเสนอในการประชุมวันที่ 24 กรกฎาคม ซึ่งหากที่ประชุมเห็นว่า มีความเหมาะสม ก็จะให้เดินหน้าทำประชาพิจารณ์และเสนอรัฐบาลใหม่พิจารณาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเห็นการสรุปแผนทั้งหมดภายในเดือนตุลาคมนี้ แต่หากเห็นว่าไม่เหมาะสม ก็จะล้มแผนการศึกษาดังกล่าวทันที”
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการดำเนินงานการออกสลากคละ หรือสลากรวมชุด 2 ใบ ที่ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่งที่น่าพอใจให้กับทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อ เพราะจากการสำรวจพบว่าการรวมชุด 2 ใบ ทำให้มีการขายสลากตามราคาหน้าสลาก 80 บาทมากขึ้น แม้ว่าจะยังเห็นการรวมชุดแล้วราคาสูงเกินกว่าที่กำหนดบ้าง แต่พบการรวมชุด 15 ใบ หรือ 30 ใบลดลง ซึ่งสะท้อนว่าตลาดเริ่มปรับตัวมากขึ้น ดังนั้น จึงเชื่อว่าหลังจากนี้สถานการณ์ราคาสลากแพงจะลดลงแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาสลากแพงอย่างต่อเนื่อง ที่ประชุมจึงมีมติให้ดำเนินการออกสลากรวมชุด 2 ใบต่อไป และมีมติให้เพิ่มเพดานการพิมพ์สลากเป็น 100 ล้านใบ จากปัจจุบันพิมพ์อยู่ที่ 90 ล้านใบ เพื่อเพิ่มปริมาณสลากให้กับผู้ค้าที่อยู่ในระบบจองซื้อให้สามารถเข้าถึงสลากเพื่อนำไปขายได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาการซื้อสลากจากยี่ปั้วไปขายต่อ โดยเบื้องต้นการเพิ่มปริมาณการพิมพ์ดังกล่าวจะทำให้ผู้ค้ารายย่อยได้สลากเพิ่มขึ้น 20,000 ราย ซึ่งจะเริ่มจองซื้อปริมาณสลากที่เพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป
