หารายได้เป็นมั้ย! ทำไมดีแต่ขายหวยสูบเงินประชาชน

25 มิ.ย. 2562 | 12:13 น.

คอลัมน์ทางออกนอกตำรา ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3482 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 27-29 มิ.ย.2562 โดย... บากบั่น บุญเลิศ

 

หารายได้เป็นมั้ย!

ทำไมดีแต่ขายหวยสูบเงินประชาชน

 

                ต้องปรบมือดังๆ และร้องไชโยโห่ฮาให้กับคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชุดที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งที่ 5/2562 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 รวมโหลหนึ่งพอดีคือ 12 คน ที่มีความหาญกล้าล้วงเงินจากกระเป๋าประชาชนอย่างแยบยล ผ่านกระบวนการเพิ่มจำนวนยอดสลากฯขึ้นเป็น 100 ล้านฉบับ จากเดิม 90 ล้านฉบับ

                นอกจากนี้ยังมีมติตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมา 1 ชุด มี ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากฯ เป็นประธานเพื่อทำหน้าที่ศึกษาความเหมาะสมในการออกสลากรูปแบบใหม่ และให้เสนอบอร์ดในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้

                ทีมพิเศษนี้จะทำการศึกษาการออกสลากทุกรูปแบบทั้งการออกสลาก 2 ตัว 3 ตัว หรือ 4 ตัว 5 ตัว การออกสลาก ล็อตโต้ การออกรางวัลแจ๊กพ็อต การออกสลากรูปแบบใหม่ เพื่อทำให้ปริมาณการซื้อหวยใต้ดินลดลงปีละ 5 หมื่นล้าน -1 แสนล้านบาทให้ได้

                เรื่องการขายหวยสารพัดรูปแบบถือเป็นเรื่องที่ผู้คนในสังคมไทยมีหลากหลายความเห็น มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะหวยนั้นมีส่วนสำคัญในการดูดเงินของประชาชนไปเป็นของรัฐทดแทนภาษีที่หายไป และมีส่วนสำคัญในการมอมเมาผู้คนในสังคมให้หันมานิยมการพนัน การเสี่ยงโชค หลงไหลในอบายมุข แทนที่จะสนับสนุนให้ประชากรของประเทศหันมาใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างตัว

                ต้องยอมรับว่าธุรกิจขายหวยในเมืองไทยนั้น ถือว่าเติบโตแบบก้าวกระโดด ธุรกิจหวยใต้ดินในช่วง 10 ปีมานี้ ขยายตัวจากมูลค่าแค่ 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนล้านบาทในปัจจุบัน

                ขณะที่ธุรกิจขายใบเสี่ยงโชคของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็เติบโตขึ้นมาอย่างน่าใจหาย เดิมที่มีการพิมพ์สลากออกมาขายงวดละ 90 ล้านฉบับ เท่ากับว่าคนไทยจะต้องควักเงินไปซื้องวดละ 7,200 ล้านบาท ขายสลากเดือนละ 2 ครั้ง เท่ากับว่าคนไทยจะต้องควักเงินไปซื้อหวยเดือนละ 14,400 ล้านบาท ปีละ 172,800 ล้านบาท

                อันนี้คิดจากราคาหน้าตั๋วใบละ 80 บาท แต่ถ้าขายกันใบละ 100 บาท เท่ากับว่าผู้คนต้องควักเงินออกมาจากกระเป๋าของประชาชนงวดละ 8,000 ล้านบาท เดือนละ 16,000 ล้านบาท

                แต่หลังจากนี้เป็นต้นไป จะมีการเพิ่มสลากออกมาขายงวดละ 100 ล้านฉบับ เอาแค่ขายใบละ 90 บาทพอไม่ต้อง 100-120 บาท เท่ากับว่าคอหวยทั้งประเทศรวมเงินไปซื้อสลากงวดละ 9,000 ล้านบาท เดือนละ 18,000 บาท ปีละไม่มากดอกครับ 216,000 ล้านบาท

                ถ้าขาย 80 บาท เท่ากับงวดละ 8,000 ล้านบาท เดือนละ 16,000 ล้านบาท ปีละ 192,000 ล้านบาท

                ผมไม่รู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไรแต่สำหรับผมมันพิลึกกึกกือจนประเทศนี้ไม่มีทางออกเข้าไปทุกขณะ เพราะอะไรนะหรือ เพราะประชากรไทยทั่วประเทศ ที่สัญชาติไทย เป็นชาย 32,079,110 คน หญิง 33,420,841 คน รวมทั้งสิ้น 65,499,951 คน แต่มีการพิมพ์สลากออกมาขายงวดละ 100 ล้านฉบับ เดือนละ 200 ล้านฉบับ

                เห็นอะไรมั้ยครับ...ผมเห็นว่า คนไทยซื้อหวยกันเฉลี่ยคนละ 3.07 ฉบับต่อเดือน

                ซื้อเพื่อเสี่ยงโชคที่จะคว้าเงินรางวัลที่ 1 รางวัลละ 6 ล้านบาท, รางวัลที่ 2 มี 5 รางวัล รางวัลละ 200,000 บาท, รางวัลที่ 3 มี 10 รางวัล รางวัลละ 80,000 บาท, รางวัลที่ 4 มี 50 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท, รางวัลที่ 5 มี 100 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท

                ลุ้นรางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 มี 2 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท, รางวัลเลขหน้า 3 ตัว เสี่ยง 2 ครั้ง มี 2,000 รางวัล รางวัลละ 4,000 บาท, รางวัลเลขท้าย 3 ตัว เสี่ยง 2 ครั้ง มี 2,000 รางวัล รางวัลละ 4,000 บาท และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว เสี่ยง 1 ครั้ง มี 10,000 รางวัล รางวัลละ 2,000 บาท

                แล้วเงินที่ได้นั้นเขาจะเอาไปไหน มาดูนี่ 1. 60% เป็นเงินรางวัล เท่ากับว่าถ้าขาย 100 ล้านฉบับใน 1 ปี จะมีการจัดสรรเงินไปให้รางวัล 115,200 ล้านบาท 2.เงินไม่น้อยกว่า 20% เป็นรายได้แผ่นดิน หากขาย 100 ล้านฉบับ รายได้จะตกประมาณ 38,400 ล้านบาท

                3.ไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานซึ่งรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย ซึ่งเท่ากับว่าสนง.สลากมีเงินในการบริหารปีละ 32,640 ล้านบาท มากกว่างบของหลายกระทรวงทีเดียว

                4.  1% เป็นเงินกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม หรือตกประมาณปีละ 1,920 ล้านบาท

                เชื่อหรือไม่ บอร์ดสลากฯ ในยุครัฐบาลลุงตู่นี่แหละ เขาพิมพ์สลากเพิ่มมาตลอด จาก 75 ล้านฉบับ เป็น 80 ล้านฉบับ เป็น 90 ล้านฉบับ และล่าสุดพิมพ์เพิ่มเป็น 100 ล้านฉบับ ล้วงเงินชาวบ้านมาเป็นรายได้เข้ารัฐมหาศาลทีเดียวพี่น้องเอร้ย

                แล้วคณะกรรมการชุดที่ทำหน้าที่ล้วงเงินจากกระเป๋าของประชาชน ผ่านการขายหวยที่ผู้คนส่วนใหญ่ร้องกันระงมในทุกวันที่ 16 และวันที่ 1 ของทุกเดือนว่า “ถูกหวยแดก” เป็นใครบ้างนะหรือครับ

                มาดูกันตัวเป็นๆ 1.นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ซึ่งเป็นผู้ที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่งตั้ง ให้เป็นประธานกรรมการ

                2.นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ 3.นางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ

                4.นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย 5.พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม 6.นายพรชัย หาญยืนยงสกุล ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง

                7.นางวิยดา โชติรัตนะศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ 8.ผศ. ดร.วิรชฎา บัวศรี กรรมการอำนวยการ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ 9.พล.อ.ศักดา เนียมคำ รองผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก

                10 .พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 11.ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย ม.หอการค้าไทย 12.พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

                บอร์ดสลากฯชุด 1 โหล ที่คสช.แต่งตั้งทุกคน รวมไปถึงรัฐบาลนายกฯลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรได้รับรางวัลที่ 1 ด้วยก้อนอิฐ เพราะหารายได้อย่างอื่นไม่เป็น ทำเป็นแต่ล้วงเงินในกระเป๋าของคนจน คนหาเช้ากินคํ่า ที่หวังว่าจะมีโชคลาภ

                ถ้าหากเพิ่มวิธีการขายหวยบนดินเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวขึ้นมาอีก พี่น้องคนไทยค่อยไปจารึกชื่อคนเหล่านี้ว่า “ผู้มอมเมา” และ “บอร์ดใจทมิฬผู้ที่หากินกับการล้วงกระเป๋าเงินประชาชน” ผ่านการให้ความหวังถูกรางวัลที่ 1...แต่สุดท้ายคนเหล่านี้ทำให้ประชาชน Hopeless กันถ้วนหน้า เพราะถูกหวยแดกทุกครั้ง...