ตลาดวิลล่าตากอากาศ ภูเก็ต พังงา คึกคัก คนไทย-เอเชีย แห่ลงทุนเก็บปล่อยเช่านักท่องเที่ยว ขณะสนามบินใหม่ ดันราคาที่ดินหาดกมลากระฉูดพุ่ง 60 ล้านบาทต่อไร่ ผู้ประกอบการจับโอกาส หาดนาใต้ ทำเลใหม่แห่งการพัฒนา
ตลาดอสังหาฯภูเก็ต พังงา ยังคึกคักต่อเนื่องจากความนิยมของดีเวลอปเปอร์ทั้งไทยและต่างชาติ เข้าพื้นที่ลงทุนวิลล่าหรู ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะทำเลหาดนาใต้ ล่าสุดมีทุนยักษ์อสังหาริมทรัพย์จากประเทศ มาเลเซีย ซื้อที่ดินกว่า 1,000 ไร่ รอขึ้นโครงการ
นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคใต้ ว่าจากการสำรวจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดในจังหวัดภูเก็ตยังได้รับความนิยมสูงจากผู้พัฒนาที่ดินและผู้ซื้อทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มวิลล่าระดับไฮเอนด์ราคาแพง (บ้านพักตากอากาศ) ที่ได้รับอานิสงส์หลักมาจากการท่องเที่ยว พบเพียงปี 2561 ปีเดียว มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 9 ล้านราย บางรายชื่นชอบในสถานที่ก็สนใจเข้ามาลงทุนซื้ออสังหาฯไว้สำหรับพักผ่อนในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะ กลุ่มคนจีน รัสเซีย ออสเตรเลีย และอังกฤษ เป็นต้น เช่นเดียวกับกลุ่มคนไทยที่เข้ามาซื้อลงทุนมากถึง 50% ทำให้ตลาดเติบโตอย่างก้าวกระโดด ส่วนหนึ่งมาจากการขยายสนามบินที่ส่งผลให้ทำเลมีศักยภาพมากขึ้น ขณะที่ปัจจุบัน ตลาดภูเก็ต มีซัพพลายกลุ่มวิลล่าทุกระดับราคา สะสมรวม 4.8 พันหน่วย กระจายไปทั่วเกาะที่นิยมสุด คือ ชายหาดกมลา ราคาที่ดินสูงสุด 50-60 ล้านบาทต่อไร่
แต่เนื่องจากปัจจุบันที่ดินริมทะเลเริ่มหายากและมีราคาสูงมาก ทำให้มีบางส่วนเริ่มกระจายการพัฒนาไปยังทำเลใกล้เคียง ซึ่งก็คือพังงา ส่วนของหาดนาใต้ มองมีศักยภาพในการเติบโตสูง ทั้งยังเป็นทำเลที่ขยายมาจากชายฝั่งตะวันตก มีชายหาดสวยงามที่ยังมีความบริสุทธิ์อยู่มาก ราคาที่ดินขายเฉลี่ยต่อไร่ยังไม่แพง ประมาณ 30 ล้านบาท ขณะนี้พบกลุ่มบูติกโฮเต็ลเริ่มเข้ามาในพื้นที่ 3-4 แห่ง และมีโครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่าง “บาบา บีช คลับ พูลวิลล่า และเรสซิเดนซ์วิลล่า” เข้ามาสร้างความคึกคักให้พื้นที่ คาดในอนาคตจะได้รับความนิยมสูง นอกจากนี้พบว่า ยังมีที่ดินแปลงใหญ่รอการพัฒนาอีกหลายแปลง
“เมื่อเกิดการพัฒนาที่ดินในจังหวัดภูเก็ตสูงขึ้นมากๆ พื้นที่ฝั่งตะวันตกเริ่มเต็ม ก็เริ่มมีการกระจายไปยังพังงา นาใต้ ถือเป็นโลเกชันใหม่ในกลุ่มไฮเอนด์ เป็นตลาดใหม่ที่ติดริมหาด แต่ราคาไม่สูงเท่าภูเก็ต ทำให้มีโอกาสเติบโตด้านราคาอีกไม่ตํ่ากว่าปีละ 10%”
นางอลิวัสสา ยังระบุว่า ปัจจุบันจุดประสงค์ และกลุ่มผู้ซื้อวิลล่าเปลี่ยนไปจากอดีต พบเป็นการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ต้องการพักอาศัยในโรงแรมมากขึ้น และจากกลุ่มผู้ซื้อหลักซึ่งเป็นชาวตะวันตก กลายเป็นคนไทยและชาวเอเชียมากขึ้น โดยราคาเฉลี่ยที่มักเปิดขายกัน อยู่ที่มากกว่า 100 ล้านบาทต่อหลัง ราคาปล่อยเช่ารายวัน 2.4 -4.6 หมื่นบาท
ด้านนางประภาวดี โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเดียส์ 1606 จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ “เวลา นาใต้ เรสซิเดนเซส” วิลล่าติดริมทะเล มูลค่า 1.2 พันล้านบาท รวม 15 หลัง เริ่มต้น 67 ล้านบาท ระบุว่า ตลาดนักลงทุนในจังหวัดภูเก็ตและพังงา ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นนักธุรกิจ เจ้าของกิจการไทย ที่ถือจังหวะอัตราดอกเบี้ยตํ่า นำเงินมาลงทุนในอสังหาฯมากกว่าฝากในธนาคาร สะท้อนจากยอดขายในโครงการดังกล่าว แม้ไม่มีบ้านตัวอย่าง ปัจจุบันขายได้มากกว่า 40% จำนวน 6 หลัง มูลค่า 490 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าทั้งหมดกลับเป็นคนไทย เพราะเดิมทีตลาดหลักคือชาวยุโรป จึงคาดว่านาใต้ จะเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงในอนาคต ทั้งนี้โครงการเวลา นาใต้ เรสซิเดนเซส ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5.8 ไร่บนชายหาดนาใต้ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2563
หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3483 วันที่ 30 มิถุนายน-3 กรกฎาคม 2562