จับตาเทขายหุ้น SP เตือนลงทุนเสี่ยงถือยาว

โบรกฯ เตือนรอบคอบลงทุน SP  เสี่ยงถือยาวนานกว่ากิจการพลิกฟื้น แต่เป็นโอกาสขายสำหรับคนติดหุ้นมานาน ดีบีเอสฯ เผย 3 หลักทรัพย์ คือ PRO,  BLISS, BUI มีกำไร-ทุนจดทะเบียนเข้าเกณฑ์

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัสฯ (ASP) กล่าวถึงกรณีที่ตลาดหลัก ทรัพย์ (ตลท.) เปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ถูก SP มานาน เป็นการชั่วคราวระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2562 โดยให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance และไม่กำหนดเพดานซื้อสูงสุด-ตํ่าสุดในวันแรกว่า  หุ้นที่ถูก SP ส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูหรือเข้าข่ายเพิกถอนอยู่แล้ว  ดังนั้นผู้ที่จะมาซื้อรอบนี้ ต้องเป็นผู้ที่สามารถถือยาวได้นานมาก เพราะต้องรอจนกว่าบริษัทจะพลิกฟื้นกิจการมาใหม่  ส่วนคนที่ติดหุ้นมาเป็นเวลานาน ก็เป็นโอกาสในการปล่อยขาย เพื่อจะช่วยลดความตึงเครียดจากสภาพคล่อง 

“ผู้จะเข้าไปเล่นหุ้นเหล่านี้ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะนอกจากต้องถือยาว ต้องดูปัจจัยพื้นฐานซึ่งมีบางตัวที่ยังดี  แต่ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีความเสี่ยง ถ้าไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ก็ไม่ควรเข้าซื้อ”

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่าช่วงการเปิดเทรดชั่วคราวหุ้นที่ถูก SP อาจถูกเทขายมาจากผู้ถือหุ้นเดิมหรือมีรายใหม่เข้ามาเก็งกำไร แต่ความเสี่ยงคือระยะเวลาในการถือหุ้นจะนาน เพราะไม่แน่นอนว่าจะกลับมาซื้อขายได้เมื่อไร จากการสำรวจมี  3 หลักทรัพย์ที่มีกำไรคือ PRO, BLISS และ BUI และทุนจดทะเบียนเข้าเกณฑ์ แต่ยังต้องติดตามคุณสมบัติอื่นๆ ว่าจะผ่านการพิจารณาได้ในอนาคต หรือไม่

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)ฯ ประเมินว่าวันแรก (1 ก.ค. 62) ที่เปิดการซื้อขายชั่วคราว หุ้นที่ถูก SP ราคาหุ้นอาจผันผวนมากกว่าข้อมูลปัจจัยพื้นฐานนักลงทุนจึงควรพิจารณาข้อมูลปัจจัยพื้นฐานและประเด็นข่าวเพิ่มเติม จากการชี้แจงข้อมูลของบริษัทเหล่านี้ไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ และจากการศึกษาพบว่ามี 6 หลักทรัพย์ที่ส่งงบการเงินต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/2562 แล้วคือ  BUI ,PRO,BLISS,A5,WR,YNP ขณะที่หลักทรัพย์ที่ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ มี 4 หลักทรัพย์ คือ NMG,  CHUO,TSF,YNP และมีอีก 3 หลักทรัพย์ที่ส่วนของผู้ถือหุ้นตามข้อมูลงบการเงินล่าสุดเป็นบวก แต่มีโอกาสพลิกไปติดลบถ้าผลประกอบการยังขาดทุนสุทธิต่อเนื่องคือ GSTEL, KTECH, CHUO 

ที่มา : บล.ทิสโก้

16 หลักทรัพย์ที่ถูก SP ประกอบด้วย  A5, BLISS, BUI, CHUO, EARTH, GSTEL, IFEC, KC, KTECH, NBC, NMG, POLAR, PRO, STHAI, TSF, WR นอกจากนี้ยังมี 3 หลักทรัพย์ที่ถูกเพิกถอนคือ IEC, LVT, YNP ซึ่งตลท.เปิดให้ซื้อขาย 7 วันทำการระหว่างวันที่ 1-9 กรกฎาคม 2562 ก่อนจะให้ออกจากตลาดฯ ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2562 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  ปีที่ 39 ฉบับ 3483 วันที่ 30 มิถุนายน-3 กรกฎาคม 2562