ฟังชัดๆ!!! ซีอีโอห่วงการเมือง- เทรดวอร์ ทุบศก.

29 มิ.ย. 2562 | 03:01 น.

 

 

วิ่งปรับเป้ากันฝุ่นตลบทั้งหน่วยงานรัฐ–เอกชน  แห่ปรับเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)และการส่งออกหลังผ่านไปครึ่งปี! 

ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง. )ธนาคารแห่งประเทศไทยแถลงผลประชุม กนง. มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% โดยประเมินว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จากการส่งออกสินค้าและบริการ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มใกล้กับที่ประเมินไว้   ยังประกาศปรับลดประมาณการณ์จีดีพีทั้งปีจากร้อยละ 3.8 เหลือร้อยละ 3.3

 เนื่องจากความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 และผลกระทบจากสงครามการค้า ส่งผลต่อรายได้การท่องเที่ยวและการส่งออกทั้งปีอาจไม่ขยายตัว หรือโต0% หรือถึงขั้นติดลบได้   ขณะที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.จะมีการประชุมประจำเดือนในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ ประเด็นหลักจะมีการหารือเพื่อปรับลดคาดการณ์ขยายตัวของจีดีพีใหม่ จากเดิมคาดการณ์ไว้จะขยายตัวที่ 3.7-4% และการส่งออกขยายตัวที่ 3-5% คาดจะปรับลดคาดการณ์ต่ำลงอย่างแน่นอน หลังสงครามการค้า และเงินบาทที่แข็งค่ามากสุดรอบ 6 ปีส่งผลกระทบมากกว่าที่คาด!!!

-ท่าทีภาคเอกชนต่อความกังวลด้านศก.

“ฐานเศรษฐกิจ”สำรวจปฎิกิริยาจากภาคเอกชน พบว่าซีอีโอหลายบริษัทมีความกังวลต่อปัจจัยลบที่เกิดขึ้น จึงต้องใส่เกียร์แตะเบรกวิ่งปรับตัวรับมือ  ขณะที่ธุรกิจบางประเภทมีความเห็นมองเป็นโอกาส โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากสงครามการค้าระหว่างจีน-อเมริกา  แต่ยังมีความเป็นห่วงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศตลอดปี2562 หากภาครัฐไม่รีบรับมือ หรือช่วงชิงโอกาสการดึงทุนจากต่างประเทศไว้

นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า การที่หลายสำนักแห่ปรับเป้าจีดีพี  ปรับเป้าส่งออกและมีการคาดการณ์ว่าปีนี้ส่งออกอาจติดลบนั้น  เป็นที่แน่นอนว่าจากเหตุการณ์ ที่มี Conflict กันระหว่าง สหรัฐอเมริกากับจีน ในกรณี Huawei จนเป็นที่มาของ เทรดวอร์(Trade War )นั้น ย่อมมีผลกระทบกับการค้าระหว่างประเทศทั้งสองแน่นอน และโดยเฉพาะคู่ค้ากับทั้งสองประเทศอย่างไทย ก็ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย จนเป็นที่มาที่หลายสำนักได้ปรับจีดีพีลดลง

“ทุกฝ่ายคิดว่าการส่งออกในครึ่งปีหลังปีนี้ จะไม่มีการเติบโตเลย และอาจจะติดลบด้วยซ้ำ  แต่สำหรับผมมีความเห็นว่าทั้งสองฝ่าย(จีน-อเมริกา) ย่อมทราบดีว่าการกระทำเช่นนี้ไม่มีประโยชน์กับใครเลยทั้งสองด้าน  มีแต่จะทำให้เจ็บด้วยกันทั้งคู่ ดังที่ทุกสิ่งที่ ทรัมป์ ประกาศไว้ มีการเลื่อนออกไปหมด  เพราะฉะนั้นในการพบกันระหว่าง ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง และ ประธานาธิบดี ทรัมป์  ในการประชุม G20 ที่โอซาก้าครั้งนี้  น่าจะมีข้อสรุปที่ดีขึ้นในระดับหนึ่ง ซึ่งก็น่าจะส่งผลดีในครึ่งปีหลัง ในด้านการส่งออกระหว่างทั้งสองประเทศ” 

ส่วนการปรับตัวรับความเสี่ยงด้านต่างๆของนวนครนั้นเนื่องจากนวนครไม่ใช่ บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับทางด้านการผลิต แต่จะเป็นผู้ให้บริการในแง่ของ Infrastructure & Services ต่างๆ  ซึ่งถ้าการผลิตมีการลดลงก็ย่อมส่งผลกระทบกับการใช้สาธารณูปโภค เช่น น้ำ หรือ ไฟฟ้า แน่นอน

ฟังชัดๆ!!!  ซีอีโอห่วงการเมือง- เทรดวอร์ ทุบศก.

ตั้งข้อสังเกตว่าในขณะเดียวกัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น  กลับทำให้หลายโรงงานตัดสินใจย้ายฐานการผลิตจากจีน มาที่ South East Asia และโดยเฉพาะ ประเทศไทย ดังนั้นในส่วนนี้ กลับเป็นผลดีกับ ผู้ประกอบการเขต และ นิคมอุตสาหกรรมใหญ่ๆทั้งหลาย  ซึ่งทางนวนครก็มีหลายโรงงานขนาดใหญ่ที่ตัดสินใจย้ายมาจากจีน ดังนั้นในส่วนนี้ระยะกลางและระยะยาว ย่อมเป็นผลดีกับผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม

ส่วนข้อเสนอแนะถึงภาครัฐในมุมภาพรวมเศรษฐกิจนั้น  ถ้ารัฐจะสนับสนุนการส่งออก   รัฐบาลก็ควรที่จะรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนให้คงที่ที่สุด อย่ามีการเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงมากเกินไป   เพราะจะลำบากต่อผู้ส่งออก และดูให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสม ที่จะทำให้เรามีความสามารถในแข่งขันกับประเทศอื่นๆที่เป็นคู่แข่งทางการค้าได้อย่างดี   ส่วนผู้นำเข้า ถ้าหากเป็นลักษณะของการนำเข้า เพื่อเป็นต้นทุนทางการผลิต เช่น เครื่องจักรหรือวัตถุดิบต่างๆ รัฐบาลก็ควรจะสนับสนุนในด้านของภาษี คือการยกเว้นต่างๆ เพื่อทำให้ผู้ผลิตมีต้นทุนที่ถูกลง ก็จะเป็นผลสะท้อนให้เรามีความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะในเรื่องการส่งออกได้ดียิ่งขึ้น

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group ผู้นำธุรกิจแบบครบวงจร ด้านธุรกิจโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม ระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัลแพลตฟอร์ม เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ถ้ามองภาพใหญ่ของเศรษฐกิจรวมของประเทศ  ส่วนตัวได้ตั้งตัวเลขการเติบโตของจีดีพีปี2562ไว้ที่ร้อยละ3.5-3.8 มาตั้งแต่แรก ซึ่งต่ำกว่าหลายสำนักพยากรณ์ไว้  แต่ถ้ามีการโหมโรงการลงทุนด้านต่างๆในอีอีซี มีการอัดฉีดเงินเข้าระบบก็ยังรักษาระดับการเติบโตของจีดีพีไว้ได้  แต่ถ้าตัวช่วยตรงนี้ไม่มาอย่างที่คิด จีดีพีคงอยู่ที่ร้อยละ 3-3.3 เนื่องจากยังมีภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัว  มีเงินลงทุนจากต่างประเทศที่ขยายตัวและยังมีภาคการท่องเที่ยวอีกที่เป็นตัวทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

“ส่วนตัวมองว่า การเมืองหมดเวลาต่อรองเก้าอี้กันแล้ว รัฐบาลต้องรีบวิ่งมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และรีบชิงโอกาสออกไปดึงทุนรายใหญ่บางรายที่เป็นทุนจีนและทุนต่างชาติที่อยู่ในจีน และกำลังหนีปัญหาเทรดวอร์น่าจะมีหลายรายที่จะออกมาลงทุน รีบออกไปชักชวนให้มาลงทุนในไทยโดยด่วน รวมทั้งรีบมาแก้ปัญหาปากท้องประชาชน และอยากเห็นภาพสภาฯที่สร้างสรรค์มากกว่า”

ฟังชัดๆ!!!  ซีอีโอห่วงการเมือง- เทรดวอร์ ทุบศก.

ส่วนธุรกิจพัฒนาที่ดิน นิคมอุตสาหกรรม และภาคโลจิสติกส์ ถ้ามองในมุมสงครามการค้าที่เกิดขึ้นน่าจะได้ประโยชน์เพราะจะมีลูกค้าที่ลงทุนในจีนออกมาจากจีน อีกทั้งยังมีปัญหาต้นทุนค่าแรงงาน ราคาที่ดินที่จีนสูงขึ้น ทุนก็จะมาโฟกัสที่อาเซียนและไทยก็เป็นดาวเด่นในสายตาทุนจีนโดยเฉพะอุตสาหกรรมไฮเทคโนโลยี แต่ถ้าเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานถูกก็จะไปเวียดนาม

-ส่งออกติดลบแน่! วิ่งบริหารความเสี่ยง

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการบริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด กล่าวว่าจากผลกระทบสงครามการค้าและค่าเงินบาทที่ผันผวนสวนทางคู่แข่งทำให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกและคาดว่าปีนี้น่าจะติดลบ ในแง่ธุรกิจต้องวิ่งรับมือบริหารความเสี่ยง 2 ส่วนหลักคือ 1.หยุดการลงทุนใหม่ เก็บเงินสดไว้ให้มากที่สุด มีการระบายสต๊อกสินค้าบางอย่างเคยเก็บไว้นานถึง 6 เดือน ก็จะเหลือ 2-3 เดือนและควบคุมสต๊อกใหม่ไม่ให้เกิดขึ้นมาก และติดตามเก็บเงินจากลูกค้าไม่ให้เกิดหนี้สูญ  รวมถึงการขายทิ้งสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็น

2.ควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ลดต้นทุนการผลิต ควบคุมของเสียจากขบวนการผลิตให้ออกมาน้อยที่สุดและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ฟังชัดๆ!!!  ซีอีโอห่วงการเมือง- เทรดวอร์ ทุบศก.

“เวลานี้ไม่กล้าคิดเรื่องการเติบโต ขอรักษารายได้ระดับเดิมไว้(ปี2561 มีรายได้ 9,600 ล้านบาท) และบริหารความเสี่ยงยึด2ส่วนคือ1.ไม่มีการลงทุนใหม่เก็บเงินสดไว้ 2.ควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างระวัง เช่น ลดของเสียจากการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน”

อย่างไรก็ตามสิ่งที่รัฐบาลต้องรับมือให้ดีคือการรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าจนหลุดกรอบ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์   ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สากลธุรกิจเลิศรวมมิตร จำกัด  กล่าวว่า จากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้กระทบต่อการส่งออก เพราะจะส่งผลต่อราคาสินค้าเพื่อส่งออก ลูกค้าที่ต่างประเทศจะต้องชำระค่าสินค้าแพงขึ้น สาเหตุหลักน่าจะมาจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ   รองลงมาก็มาจากจากการที่สหรัฐได้มีการบอยคอตครั้งใหม่ต่ออิหร่าน ที่จะทำให้ราคาน้ำมันขยับตัวมากขึ้น ดังนั้นต้องดูว่าการประชุม G20 ที่โอซาก้า ผลจะออกมาในรูปไหน อีกทั้งรัฐบาลจะรีบออกมาแทรกแซงได้ทันเวลาหรือไม่ หากรีบออกมาแทรกแซงได้ทันการ ก็จะยังไม่ส่งผลมากนัก การปรับตัวของผู้ประกอบการช่วงนี้ ควรจะจับตาดูผลประชุมG20 อย่างใกล้ชิด หากผลการประชุมเป็นไปในทิศทางลบ ก็ควรจะรีบปรับตัวเรื่องราคาและผลิตภัณฑ์ของตนเองอย่างเร่งด่วนต่อไป

ฟังชัดๆ!!!  ซีอีโอห่วงการเมือง- เทรดวอร์ ทุบศก.

สำหรับการปรับตัวรับมือนั้น ล่าสุดบริษัทอาศัยช่วงเวลานี้เดินทางไปพบลูกค้าและร่วมกันวางแผนการกระตุ้นสินค้าในตลาดมากขึ้น เพื่อรีบสร้างความต้องการจับจ่ายสินค้าเรา ให้สต๊อกที่ค้างอยู่ในโกดังของลูกค้าหมดไปก่อน เพราะลูกค้าที่ต่างประเทศช่วงนี้จะชะลอการสั่งซื้อออกไป เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น  จึงค่อยสั่งซื้อใหม่ เพราะคาดว่าสถานการณ์เช่นนี้จะอยู่ได้ไม่นานนัก เชื่อว่าทางสหรัฐและจีนต้องรีบออกมาแก้ไขก่อน

  “เชื่อว่าทางภาครัฐและธนาคารแห่งประเทศไทยเองก็กำลังจับตาดูผลที่จะออกมาจากการประชุม G20 ครั้งนี้ หากผลที่ออกมาในทางลบ ก็จะต้องมีการเข้ามาแทรกแซงค่าเงินบาท ไม่ให้แข็งค่าไปกว่า 31บาท เพราะจะทำให้ประเทศส่งออกลำบาก ควรจะให้ค่าเงินแข็งแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า เพื่อผู้ประกอบการและคู่ค้าที่อยู่ต่างประเทศได้มีเวลาปรับตัวได้มากขึ้น ”

-แนะรัฐเร่งเครื่องยนต์กระตุ้นจับจ่าย

นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก(1994) จำกัด (มหาชน) หรือTPLAS ผู้ผลิตถุงตรา “หมากรุก” และฟิมล์ยืดห่อหุ้มอาหาร “Vow Wrap”  กล่าวว่า เมื่อต้นปีหลายสำนักออกมาประกาศตั้งเป้าว่าจีดีพีโต4%  ตอนนั้นในใจผมตั้งคำถามบ่นกับตัวเองว่าจะเป็นไปได้หรือ!  โดยมองจากปัจจัยพื้นฐานที่ว่า เศรษฐกิจถ้าดีจริงจะต้องสะท้อนด้านการบริโภคที่ออกมาดีกว่านี้  รวมถึงที่มองว่ารายได้เกษตรกรสูงขึ้น ผมก็มีคำถามว่าแล้วทำไมราคาเกษตรลดลง

“จากนั้นก็มุ่งมาทางแนวคิดของตัวเองเป็นหลัก วันนี้ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแรงอยู่แล้ว ขณะเดียวกันการขยายกิจการต้องมีความรอบคอบมากขึ้น เพราะเวลานี้ลงทุนไป 100 บาท  อาจจะได้กลับมาเพียง 80 บาท จึงต้องระวังให้ดี”

ฟังชัดๆ!!!  ซีอีโอห่วงการเมือง- เทรดวอร์ ทุบศก.

ดังนั้นการปรับตัวรับมือส่วนใหญ่จะหันไปใช้กลยุทธ์ที่เป็นโลคอส มาเก็ตติ้ง  หรืออะไรที่ใช้เงินน้อยที่สุดแต่ได้ผลดี  โดยใช้เครื่องมือด้านการตลาดแบบบอกต่อปากต่อปาก หรือทีมขายลงพื้นที่ออกไปสื่อสารกับลูกค้าให้มากขึ้น

ส่วนข้อเสนอถึงภาครัฐ โดยเฉพาะ “ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ต้องรีบเร่งเครื่องยนต์กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศให้ได้ก่อน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนใช้เงิน และทำควบคู่กับการแก้ปัญหาครัวเรือน คือทำให้มีรายได้เข้ามาพร้อมกับการลดหนี้  ที่สำคัญบรรดานักการเมืองทั้ง2ฝั่งจะต้องหันมามองว่าคนไทยด้วยกันพูดคุยกันให้เข้าใจ  หันมาร่วมมือกันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยให้ดี  เพราะหากวันหนึ่งถ้าไม่เหลืออะไร มานั่งร้องไห้เสียใจก็ไม่เกิดประโยชน์”

คอลัมน์ : Let Me Think
โดย       : TATA007

ฟังชัดๆ!!!  ซีอีโอห่วงการเมือง- เทรดวอร์ ทุบศก.