ททท.ชูแผนQuick Win ปั๊มรายได้ครึ่งปีหลัง
วิกฤติเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าจีน-สหรัฐอเมริกา การแข็งค่าของเงินบาท ส่งผลให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้องปรับลดเป้าหมายการท่องเที่ยวในปี2562 จากเดิม 3.4 ล้านล้านบาท เหลือ 3.38 ล้านล้านบาท เติบโต 9.5% ตํ่ากว่าเป้าหมายเดิมว่าจะเติบโต 11.5% เป้าหมายนี้อยู่ภายใต้โจทย์ที่ททท.จะต้องกระตุ้นตลาดอย่างหนักช่วงครึ่งปีหลัง
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากการเติบโตของการท่องเที่ยวของไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ที่เติบโตราว 4-5% ซึ่งตํ่ากว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้ททท.ต้องทำตลาดอย่างหนักในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อผลักดันให้การท่องเที่ยวในปีนี้ขยายตัวอยู่ที่ 9.5% เพราะหากไม่มีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม คาดว่าการท่องเที่ยวในปีนี้จะเติบโตแค่ 7-8% เท่านั้น และอาจไม่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ ที่คาดหวังรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยที่จะแตะ 4 ล้านล้านบาท ในปี2564
ดังนั้นในขณะนี้ททท.จึงอยู่ระหว่างจัดทำแผนกระตุ้น ท่องเที่ยวครึ่งปีหลังที่จะรุกตลาดเพิ่มขึ้น ทั้งการจัดทำโครงการเพื่อกระตุ้นตลาดระยะใกล้ ไม่ว่าจะเป็นอาเซียน และเอเชียใต้ โดยเฉพาะอินเดีย ที่มองเป้าการเติบโตอยู่ที่ 20% ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าจำเป็นต้องเสนอขอขยายเวลายกเว้นมาตรการ VISA ON Arrival (VOA)ที่จะหมดอายุในเดือนตุลาคมนี้ออกไปอีก 2-3 เดือน หรือไม่ รวมถึงการกระตุ้นตลาดระยะไกล ภายใต้โครงการ Bigger & Better เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้
การผลักดันการเดินทางเที่ยวในประเทศของคนไทย เนื่องจากมีวันหยุดยาวหลายช่วง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมด้านดิจิทัลและการสื่อสารในการประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์กระตุ้นให้เกิดการเดินทางจริง
รวมถึงหากรัฐบาลมีแผนจะเตรียมเงินอีกราว 1 แสนล้านบาท เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ ททท.ก็จะขอเข้าไปมีส่วนในการทำโครงการที่จะขอใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วย
ด้านนางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เผยว่าแผนกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลังของภูมิภาคยุโรป จะอยู่ภายใต้กลยุทธ์ Quick Win โดยจะเน้นทำงานร่วมกับกลุ่มออนไลน์ทราเวล เอเยนต์(OTA) ในการทำโปรโมชัน โฆษณาแพ็กเกจต่างๆร่วมกัน ในการเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวด้วยตัวเอง(เอฟไอที)มาเที่ยวไทย โดยเน้นทำการตลาดแบบ 360 องศา เพื่อรักษาเป้าหมายตลาดระยะไกล ให้ได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้
นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า แผนกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลังของภูมิภาคนี้ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ซึ่งททท.จะร่วมมือกับการบินไทย ในการจัดทำโครงการGive Me Five โดยจะเพิ่มนํ้าหนักกระเป๋าให้ฟรีอีก 5 กิโลกรัม สำหรับเส้นทางบินจากไทยไปยังอาเซียนและอินเดีย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังร่วมมือกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลทุกสาขา เดอะมอลล์ สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ให้ส่วนลด 10-15% ช่วงวันที่ 15 กรกฎาคม-30 กันยายน 2562 เมื่อนักท่องเที่ยวโชว์พาสปอร์ต คาดว่าในช่วง 3 เดือนนี้จะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายได้ราว 2 หมื่นล้านบาทจากนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการอยู่ที่ 1-2 แสนคน
นอกจากนี้ททท.ยังอยู่ระหว่างการหารือกับสายการบิน เพื่อร่วมกันจัดโปรโมชันราคาพิเศษช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ ในเส้นทางบินจากลาวและกัมพูชาเข้าไทย โดยมุ่งจะดึงนักท่องเที่ยวจาก 4 เมืองรอง ได้แก่ หลวงพระบาง, เวียงจันทน์, เสียมเรียบ, พนมเปญ เข้าไทย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโตดี และมีเที่ยวบินตรงเข้าไทยหลายเที่ยวบิน อีกตลาดที่ต้องจะผลักดันให้โตได้อีก คือ อินเดีย ซึ่งครึ่งปีแรกเติบโตกว่า 20% ททท.จะทำงานร่วมกับเอเยนต์ อินเดียรายใหญ่รวม 10 ราย ซึ่งบริหารจัดการทัวร์กว่า 100 บริษัท ในการกระตุ้นมาไทย เนื่องจากปัจจุบันเส้นทางบินจากอินเดียเข้าไทย มีมากถึง 14 เมือง และเรามองว่ามาตรการวีซ่า VOA มีส่วนช่วยในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวอินเดียทั้ง 14 เมืองนี้เป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องเดินทางไปทำวีซ่าที่สถานกงสุลไทยในอินเดีย ที่มีอยู่เพียง 5 แห่ง
หน้า 2 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3485 วันที่ 7-10 กรกฎาคม 2562
