แบรนด์ เพลิน ลุยตลาดหนักเล็งต่อยอดผลิตภัณฑ์แปรรูปไปสู่ขนุน และมันไทย พร้อมแตกแบรนด์ขยายกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่างทำตลาดในประเทศ เผยออกงานไทยเฟล็กซ์จับทิศทางตลาดส่งออก เชื่อรายได้ปีนี้แตะ 50 ล้านบาท
นางวันดี ไพรรักษ์บุญ กรรมการ บริษัท บ้านเพลินฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกล้วยแปรรูปแบรนด์ “เพลิน” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลยุทธ์ในการขยายตลาดเพื่อเพิ่มฐานลูกค้า เพิ่มรายได้ของแบรนด์ปีนี้ จะมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการขยายตลาดในประเทศ แบรนด์จะมีการดำเนินการต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปสู่การนำผลผลิตทางการเกษตรชนิดอื่นมาแปรรูป ล่าสุด แบรนด์ได้นำขนุนพันธุ์เพชรราชามาแปรรูปในรูปแบบเดียวกับกล้วยทั้งหมด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าและขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเตรียมนำ มันไทย มาแปรรูปในลักษณะเดียวกัน และมะม่วงสุกอบแห้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การแปรรูปของทั้งผลผลิตทางการเกษตรดังกล่าวทั้ง 2 ชนิดอาจจะไม่ได้มีทุกรูปแบบเหมือนกล้วย เนื่องจากด้วยลักษณะของวัตถุดิบที่แตกต่างกัน โดยแบรนด์จะเลือกแปรรูปให้เหมาะสมมากที่สุดกับวัตถุดิบแต่ละชนิด นอกจากนี้ แบรนด์ยังมีแนวคิดที่จะขยายกลุ่มลูกค้าไปสู่กลุ่มของผู้ที่มีรายได้ระดับกลางจนถึงล่าง จากเดิมที่กลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์จะอยู่เป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับกลางถึงสูง
ทั้งนี้ รูปแบบในการขยายกลุ่มลูกค้าดังกล่าวนั้น มองว่าน่าจะเป็นการเพิ่มแบรนด์ขึ้นมาอีกแบรนด์หนึ่งโดยเฉพาะเพื่อทำตลาด ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้บริโภคไม่เกิดความสับสน โดยที่กระบวนการผลิตทุกอย่างจะเหมือนเดิม เพียงแต่อาจจะเปลี่ยนแปลงในส่วนของวัตถุดิบ เพื่อให้สามารถทำราคาจำหน่ายได้ตามที่ต้องการ สำหรับปัจจุบันช่องทางการทำตลาดของแบรนด์อยู่ที่เลมอน ฟาร์ม (Lemon Farm), คิงเพาเวอร์, ร้านสพาร์ (SPAR) ในปั๊มนํ้ามันบางจาก และการทำตลาดร่วมกับบริษัทนำเที่ยวต่างๆ เป็นต้น
ส่วนการทำตลาดต่างประเทศนั้น ล่าสุดบริษัทได้ดำเนินการทดลองตลาดผ่านงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ หรือไทยเฟล็กซ์ 2019 (THAIFEX-Word of Food Asia 2019) โดยได้รับความสนใจจากลูกค้าต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งญี่ปุ่น,เกาหลี, ไต้หวัน,จีน และประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งหลังจากนี้แบรนด์จะต้องกลับมาดูภาพรวมขององค์กร รวมถึงแหล่งผลิตและมาตรฐานว่ามีความพร้อมหรือไม่ อีกทั้งยังจะต้องพิจารณาด้วยว่าคู่ค้าจากประเทศใดให้ราคาได้สมเหตุสมผลมากที่สุด
“การส่งออกไปยังแต่ละประเทศต่างก็มีมาตรฐานที่เป็นของประเทศตนเอง ดังนั้นการออกงานดังกล่าวจึงเสมือนเป็นการโยนหินถามทางว่าแบรนด์จะดำเนินไปในทิศทางใด เพื่อให้เหมาะสมกับองค์กรธุรกิจโดยรวม เพราะแบรนด์ไม่สามารถที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับมาตรฐานของทุกประเทศได้ เนื่องจากต้องใช้งบลงทุนสูง ดังนั้นจึงต้องเลือกว่าควรจะนำผลิตภัณฑ์ส่งออกไปยังประเทศใด”
นางวันดี กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาทในปีนี้ เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งบริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 40 ล้านบาท โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “เพลิน” อยู่ที่การคัดสรรวัตถุดิบที่เป็นกล้วยหอมทองไทยแท้ จาก 4 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม, เพชรบุรี, ชุมพร และราชบุรี ซึ่งเป็นเกรดเดียวกับที่ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น โดยเมื่อนำมาแปรรูปจะได้กล้วยหอมที่กรอบ ชิ้นบาง ไม่เหม็นหืน พร้อมกันนี้ยังมีการให้บริการ และใส่ใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ได้ตามมาตรฐาน
“ผลิตภัณฑ์แบรนด์เพลินประกอบด้วย กล้วยทอดในรูปแบบสแนก กล้วยอบกรอบรสวาซาบิ, บาร์บีคิว, ปาปริก้า และสาหร่ายทองม้วนกล้วย โดยทุกรสชาติจะไม่มีส่วนประกอบของผงชูรส”
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3462 วันที่ 11-13 กรกฎาคม 2562