หากคุณหลงใหลในรถพลังงานไฟฟ้า วันนี้ “ฐานยานยนต์” ขอนำเสนอ “อีวี” แดนมังกร Baojun E200 แบรนด์ใหญ่ไซซ์เล็ก ที่มีโอกาสได้ไปลองขับถึงเมืองหลิ่วโจว ประเทศจีน
เป็นทริปที่คณะสื่อไทยได้รับเชิญจาก เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ประเทศไทย ให้ไปเยี่ยมชมอุตสาหกรรมรถยนต์แบบครบวงจรของ SGMW กรุ๊ป (SAIC Motor + GM +Wuling Motors)
หนึ่งในทริปคือการชมสายพานการผลิตและทดลองขับ รถพลังงานไฟฟ้าแบบ “ไมโครคาร์” Baojun E200 รถยนต์ 2 ที่นั่ง ซึ่งฮิตระเบิดระเบ้อที่เมืองหลิ่วโจว ถือเป็นไมเนอร์เชนจ์จาก รุ่นพี่ Baojun E100 แต่น่าเสียดายที่เรามีเวลาในการลองขับ E200 เพียงไม่นาน เนื่องด้วยปัจจัยหลายอย่าง แต่ก็พอจะบอกเล่าต่อได้
พื้นฐานเจ้า Baojun E200 อัพเกรดจาก Baojun E100 ตัวรถมีการปรับปรุงหน้าตาใหม่รอบคันให้ดูทันสมัย สลับนั่น ตัดโน่น นิดหน่อย เริ่มจากกระจังหน้า E200 ไม่มีไฟตัดหมอก มีแต่ไฟหน้า ไฟเลี้ยวเพียวๆ แต่ดีไซซ์ดูขรึมขึ้น ภายในสลับตำแหน่งเกียร์จากเดิม E100 อยู่ที่ตำแหน่งปกติกลางห้องโดยสารข้างคนขับ จับมาไว้บนคอนโซลหน้า(งงเลย) มีแค่ เกียร์คือ P D และ R เท่านั้น ไม่มีเกียร์ N เพราะรถไฟฟ้าเขาไม่ให้เข็นนะจ๊ะ
ทันทีที่กดปุ่มสตาร์ตแทบไม่รู้สึกว่าเครื่องติดแล้ว เพราะเงียบอย่างมาก(แน่นอนเพราะมันไม่มีเครื่องยนต์) ซึ่งเจ้าหน้าที่ SGMW ที่นั่งประกบบอกว่า มอเตอร์ไฟฟ้าเจ้า E200 เงียบกว่ารุ่น E100 อย่างมาก ภายในห้องโดยสารบอกเลยว่าผิดคาด จากที่มองด้านนอกดูแคบๆ พอเข้าไปนั่งแล้วก็มีพื้นที่ว่างให้ขยับแข้งขยับขา และเอนเบาะได้เล็กน้อย เบาะทรงสปอร์ตหุ้มแผ่นหลังกำลังดี ด้านหน้าคอนโซลมีจอ LED แสดงผลอัจฉริยะ ระบบกระจกไฟฟ้าแอร์ดิจิทัล มาพร้อมกับกล้องหน้ารถติดมากับโรงงาน
ข้อจำกัดในการทดสอบครั้งนี้คือ ต้องทำตามกฎของสนาม ขับความเร็วสูงสุดคือไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ทางผู้ผลิตบอกว่า E200 สามารถเร่งขึ้นไปได้ถึง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากศักยภาพของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 40 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร
ขณะที่ชุดแพ็กแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 22 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งรถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 270 กิโลเมตรตามการทดสอบภายในของ Baojun แต่ถ้าทดสอบตามมาตรฐานยุโรป NEDC จะวิ่งได้ระยะทาง 210 กิโลเมตร
ช่วงล่างอาจจะไม่นุ่มนวลมากนัก สัมผัสได้ถึงความกระด้างเมื่อผ่านเนินลูกระนาดใหญ่ มีจังหวะหัวโยกหัวคลอนได้ถ้าไม่เบรกแล้วค่อยๆหยอด
ในช่วงที่สามารถเติมความเร็วได้สูงขึ้น หรือเหยียบได้เร็วสุดตามข้อกำหนดของสนามทดสอบ พบว่าอัตราเร่งทำได้ไม่เลวในรถระดับนี้ แต่อาจจะดูอืดๆไปด้วยซํ้าสำหรับคนที่ใจเร็วเท้าหนัก ดังนั้นต้องปรับทัศนคติกันหน่อยตรงจุดนี้ เพราะตัวรถคันเล็กนิดเดียวและเกิดมาเพื่อการใช้งานในเมืองเป็นหลัก (เร่งแรงมากๆอาจจะไม่ปลอดภัยและแบตเตอรี่หมดเร็ว)
เมื่อถึงช่วงเข้าโค้งที่ต้องลดความเร็วตามกฎของสนาม พบว่า E200 ยังทรงตัวใช้ได้ ไม่มีอาการเหวี่ยงมาก แต่แนะนำว่าอย่าสาดโค้งแรงเกินไปนัก ด้วยฐานล้อและขนาดยางเพียง 145/70 R12 คงไม่ได้เหมาะกับพฤติกรรมการขับขี่แบบสปอร์ตดุดัน
ทั้งหมดนี้สนนราคา 64,800 หยวน หรือประมาณ 3 แสนบาท ไทย แพงกว่า E100 เท่าตัวเพราะรุ่นพี่ขายที่ 39,800 หยวน แต่สิ่งที่ได้มาคือระยะทางที่ขับได้ไกลขึ้น มอเตอร์และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพดีขึ้นพร้อมเทคโนโลยีภายในรถใหม่กว่า
ผู้บริหาร Baojun บอกว่า ที่ขายได้ในราคานี้ เพราะรัฐบาลสนับสนุนจึงทำให้ราคาถูกลง ไม่เช่นนั้นราคาปกติจะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาท และยังสนับสนุนการชาร์จไฟฟ้าฟรีอีกต่างหาก ซึ่งในอนาคต Baojun กำลังจับมือกับ Huawei และ China Mobile ในการนำเทคโนโลยี 5G มาใส่ใน E200 และรถรุ่นอื่นๆ จะทำให้เป็นรถอัจฉริยะ ไร้คนขับ บังคับได้ด้วยสมาร์ทโฟน และเตรียมลุยตีตลาดในเมืองอื่นๆของจีน แต่ที่ทำได้ตอนนี้ คือสั่งซื้อ E200 ผ่านแอพพลิเคชั่น ทั้งระบบเงินสดและแบบผ่อน เลือกสีได้ตามใจชอบ ผลิตและส่งมอบได้ภายใน 7 วัน
...แต่บอกเลยนะว่า รถพลังานไฟฟ้าคันนี้ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะมาขายในเมืองไทย
โดย จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,486 วันที่ 11 - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2562