‘อินฟลูเอ็นเซอร์’ครองโซเชียล ‘ดารา-ไฮโซ-โนเนม’โกยรายได้อื้อ!!

12 ก.ค. 2562 | 09:00 น.

“อินฟลูเอ็นเซอร์” เครื่องมือการตลาดสุดฮอตบนโลกออนไลน์ จับดารา-นักร้อง-ไฮโซคนดังผันตัวรับทรัพย์ตั้งแต่หลักพันยันหลักแสน ขณะที่สินค้าทั้งกลุ่มความงาม แม่และเด็ก แห่ใช้บริการเหตุสร้างความเชื่อมั่นได้ดี-กระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ทันที

วันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า “การตลาดออนไลน์” กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์คนทุกกลุ่ม ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภควันนี้ที่ไม่มีการแบ่งแยกยุคเก่าหรือยุคใหม่ ความแรงของออนไลน์ที่สอดแทรกเข้ามาอยู่ในทุกอิริยาบถของชีวิต ทำให้เม็ดเงินต่างๆ ถูกโยกมารวมไว้ที่ออนไลน์ด้วยเช่นกัน เห็นได้จากสื่อโฆษณาตลาดดิจิทัลที่เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 30% ขณะเดียวกัน DAAT หรือสมาคมโฆษณาดิจิทัล ยังตั้งเป้าหมายเม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัลจะแตะ 2 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมานักการตลาดต้องพยายามปรับตัวและศึกษาเครื่องมือการตลาดออนไลน์ และหนึ่งในเครื่องมือสำคัญและมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคยุคใหม่ที่นิยมเสพข่าวสารผ่านสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ให้ตัดสินใจซื้อสินค้าคงหนีไม่พ้น “Influencer Marketing” หรือการตลาดด้วยผู้มีอิทธิพลบนโลกโซเชียล

 

พันธ์ศักดิ์ ลิ้มวัฒนายิ่งยง

นายพันธ์ศักดิ์ ลิ้มวัฒนายิ่งยง กรรมการบริหาร บริษัท แคสติ้งเอเชีย จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันเครื่องมือที่สำคัญของการตลาดออนไลน์ คือ “อินฟลูเอ็นเซอร์” ไม่ได้นิยมใช้แค่ในตลาดประเทศไทย แต่เป็นเกือบทุกประเทศทั่วโลกที่พยายามนำอินฟลูเอ็นเซอร์มาใช้ในโลกการตลาดออนไลน์เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจของผู้บริโภค ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าตราบใดที่ยังทำการตลาดออนไลน์ อินฟลูเอ็นเซอร์ยังเป็น 1 ในเครื่องมือที่สำคัญ

‘อินฟลูเอ็นเซอร์’ครองโซเชียล ‘ดารา-ไฮโซ-โนเนม’โกยรายได้อื้อ!!

“ในอดีต 3-4 ปีก่อนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคจะค้นหาข้อมูล หรือเจอ Banner ตามเว็บไซต์ต่างๆ แล้วสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทันที แต่ปัจจุบันผู้บริโภคฉลาดมากขึ้น ดังนั้นแค่การใช้พรีเซนเตอร์หรือโฆษณาตามเว็บไซต์ต่างๆ จึงไม่เพียงพออีกต่อไป ทำให้นักการตลาดในยุคนี้จึงต้องเพิ่มการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นโดยใช้อินฟลูเอ็นเซอร์เข้ามาช่วยสร้างความน่าเชื่อและตอกยํ้าให้แบรนด์มากขึ้น โดยหวังให้ผู้บริโภคก้าวผ่านความไม่มั่นใจของแบรนด์และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อในท้ายที่สุด”

‘อินฟลูเอ็นเซอร์’ครองโซเชียล ‘ดารา-ไฮโซ-โนเนม’โกยรายได้อื้อ!!

อีกทั้งในปัจจุบันตลาดดิจิทัลเอเยนซีหลายแห่งเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น ซึ่งแต่ละบริษัทก็มีจุดแข็งแต่ละด้านที่แตกต่างกัน ซึ่งในมุมของบริษัทเองก็มีเทคโนโลยีที่แข็งแรงและครบวงจรที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ง่ายและแม่นยำมากขึ้น เช่น การใช้ Technology ระบบ AI หรือ Artificial Intelligence เข้ามาช่วยเลือก Influencer ให้เหมาะกับความต้องการของ Campaign, การ Run Campaign ตลอดจนการวัดผลลัพธ์ของ Campaign รวมถึงการพัฒนา Influencer อย่างเต็มรูปแบบ

‘อินฟลูเอ็นเซอร์’ครองโซเชียล ‘ดารา-ไฮโซ-โนเนม’โกยรายได้อื้อ!!

สำหรับในอนาคตบริษัทมองว่าอินฟลูเอ็นเซอร์ยังมีบทบาทสำคัญ แต่การสื่อสารและหมวดหมู่จะย่อยหรือเป็น Segmentation มากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันดารา หรือศิลปินก็ได้ผันตัวเองมาเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ หรือครีเอตเตอร์ในช่อง Youtube มากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีอินฟูลเอ็นเซอร์ในแต่ละกลุ่มรวม 17 ประเทศกว่า 4 หมื่นคน และเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ในประเทศไทยกว่า 1 หมื่นคน อาทิ ดีเจเพชรจ้า, นํ้าชา- ชีรนัช, พอล-ภัทรพล เป็นต้น

ด้านนายปิยะ เศวตพิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนิกซ์ ยูธ 1999 จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันอินฟลูเอ็นเซอร์แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มสำหรับงานอีเวนต์ คือ 1.กลุ่มเซเลบริตี (นามสกุลดัง) 2.ดาราหรือศิลปิน และ 3.บล็อกเกอร์ (ผู้ใช้จริง) ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมางานอีเวนต์ใช้เพียงแค่เซเลบริตีและดาราเท่านั้น แต่ในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อไป โดยในช่วงที่ผ่านมางานอีเวนต์ต้องเพิ่มกลุ่มบล็อกเกอร์ขึ้นมาเพื่อให้นํ้าหนักของแบรนด์สินค้าดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

‘อินฟลูเอ็นเซอร์’ครองโซเชียล ‘ดารา-ไฮโซ-โนเนม’โกยรายได้อื้อ!!

“กลุ่มอินฟลูเอ็นเซอร์ หรือบล็อกเกอร์ที่เพิ่มเข้ามาในงานอีเวนต์มากขึ้น ได้แก่ กลุ่มสินค้าความงามและสุขภาพ กลุ่มแม่และเด็ก รวมทั้งกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง เป็นต้น ซึ่งอัตราราคาค่าตัวของอินฟลูเอ็นเซอร์แต่ละคนก็แตกต่างกันตามยอดสมาชิกผู้ติดตาม Engagement และคาแรกเตอร์ของอินฟลูเอ็นเซอร์ที่สอดคล้องกับสินค้าของแบรนด์นั้น โดยที่ผ่านมาอินฟลูเอ็นเซอร์ที่ถูกเชิญมางานอีเวนต์จะมีอัตราค่าตัวตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน เช่น งานอีเวนต์สัตว์เลี้ยง ที่ผ่านมาเพียงแค่นำสุนัขมาโชว์ในงานก็ได้รับค่าตอบแทนราว 2- 3 หมื่นบาทต่อครั้ง” 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3486 ระหว่างวันที่ 11 - 13 กรกฎาคม 2562