พาณิชย์บุกตลาดตะวันออกกลาง

10 ก.ค. 2562 | 09:53 น.

พาณิชย์จัดคณะผู้แทนการค้าอุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจบริการบินไปเปิดตลาดภูมิภาคตะวันออกกลางที่ประเทศโอมานและประเทศบาห์เรน ได้ยอดสั่งซื้อกลับมาร่วม 500 ล้านบาท ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากกับการเปิดตลาดให้กับผู้ประกอบการไทยในตลาดภูมิภาคตะวันออกกลาง

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่ากรมได้จัดกิจกรรมนำคณะผู้แทนการค้าอุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจการไปเปิดตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ณ กรุงมัสกัต ประเทศโอมานและ กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยโครงการนี้เป็นโครงการที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ เมืองดูไบ สำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม และสำนักพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินการจัดกิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้พบปะกับผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าสินค้าโดยตรง และได้ทราบถึงโอกาสแนวทางในการขยายธุรกิจบริการและส่งออกสินค้า ตลอดจนเป็นการสร้างภาพลักษณ์สินค้าและบริการไทย เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายให้สำนักต่างๆบูรณาการจัดกิจกรรมด้านการตลาดการเจรจาการค้าและการสำรวจตลาดในภูมิภาคตะวันออกลางเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถหาลู่ทางขยายการส่งออก/หาตัวแทนการขาย(Sales Representatives)/ พบปะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายตลอดจนสำรวจศักยภาพของตลาดตะวันออกกลางซึ่งเป็นตลาดศักยภาพที่สำคัญของไทย

สำหรับผลตอบรับจากประเทศโอมานมีผู้นำเข้าโอมานสนใจเข้าร่วมกิจกรรมถึง 70 ราย โดยในครั้งนี้ ได้แก่ Galfar Engineering & Contracting SAOG เป็นหนึ่งในบริษัทด้านวิศวกรรมและก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในสุลต่านแห่งโอมาน และ Khimji Ramdas Group (KR) เป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือและเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมในประเทศโอมาน โดยผู้ประกอบการไทยได้เจรจาการค้ากับคู่ค้าเฉลี่ย 13 ราย/บริษัท มูลค่าสั่งซื้อที่เกิดขึ้นในทันที คิดเป็นเงินจำนวน 8,580,000 บาทและมูลค่าสั่งซื้อที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 1 ปี คิดเป็นเงินจำนวน 191,730,000 บาท สินค้าและบริการที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ Security lock equipment, Furniture fitting, Landscape and Plant material เรียงลำดับมูลค่าการสั่งซื้อจากมากไปน้อย

ในส่วนของประเทศบาห์เรน มีผู้นำเข้าบาห์เรนสนใจเข้าร่วมกิจกรรม 67 ราย หนึ่งในผู้นำเข้าที่เข้าร่วมกิจกรรม มีบริษัท Nass Commercial ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าและบริการของผู้ผลิตต่างประเทศหลายรายและเป็นศูนย์กลางการบริการหลังการขายอย่างครบวงจรได้รับการยอมรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี  โดยผู้ประกอบการไทยได้เจรจาการค้ากับคู่ค้าเฉลี่ย 8 ราย/บริษัท มูลค่าสั่งซื้อที่เกิดขึ้นในทันที คิดเป็นเงินจำนวน 14,520,000 บาท มูลค่าสั่งซื้อที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 1 ปี คิดเป็นเงินจำนวน 296,670,000 บาท สินค้า/บริการที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ Security lock equipment, Furniture fitting, Landscape and Plant material, Roof insulator, Air Purifier เรียงลำดับมูลค่าการสั่งซื้อจากมากไปน้อย ทั้งนี้ผลจากการนำคณะผู้แทนคณะผู้แทนการค้าอุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจการไปเปิดตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางในสองประเทศ สร้างยอดการสั่งซื้อรวมกว่า 500 ล้านบาท