รู้ยัง! Google Translate อัพเกรดแปลภาษาโดยใช้โหมดกล้อง

12 ก.ค. 2562 | 06:42 น.

Google ประกาศอัพเกรดฟีเจอร์  Google Translate การแปลภาษาโดยใช้โหมดกล้องเพื่อช่วยให้การสำรวจสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย การสื่อสารในภาษาต่างๆ และสร้างสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งหนึ่งในฟีเจอร์ของแอพพลิเคชัน Google Translate

  รู้ยัง! Google Translate อัพเกรดแปลภาษาโดยใช้โหมดกล้อง

คือการแปลภาษาโดยใช้โหมดกล้อง ด้วยการเปิดกล้องไปที่ข้อความที่เป็นภาษาต่างประเทศ ซึ่งคล้ายกับฟีเจอร์การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ใน Google Lens ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็ยังสามารถใช้งานได้แม้จะไม่ได้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรืออินเตอร์เน็ตบนมือถือ

 

การแปลภาษาด้วยโหมดกล้องรองรับภาษาต้นทางใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีก 60 ภาษา อาทิ ภาษาอาหรับ ภาษาฮินดี ภาษามลายู ภาษาไทย ภาษาเวียดนาม สามารถตรวจสอบรายชื่อภาษาต้นที่รองรับทางทั้งหมด 88 ภาษาได้ที่นี่

 

จากเดิมที่แปลได้เพียงระหว่างภาษาอังกฤษกับภาษาอื่นๆ ตอนนี้แอพ Google Translate สามารถแปลโดยจับคู่ภาษาต้นทางและภาษาปลายทางเป็นภาษาใดก็ได้ในกว่า 100 ภาษาที่รองรับโดย Google Translate เช่น แปลจากภาษาอาหรับเป็นภาษาฝรั่งเศส หรือแปลจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาจีน เป็นต้น

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ ด้วยความหลากหลายภาษา การระบุภาษาที่ต้องการแปลมักเป็นเรื่องยาก แต่ในเวอร์ชันใหม่ของแอพพลิเคชัน Google Translate ได้เพิ่มเมนู “ตรวจจับภาษา” เพื่อตรวจจับภาษาต้นทาง และแอพพลิเคชัน Google Translate ก็จะตรวจจับภาษาและแปลให้โดยอัตโนมัติ เช่น เมื่อเจอป้ายในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่ใช้ทั้งภาษาโปรตุเกสและภาษาสเปน แอพพลิเคชัน Google Translate สามารถบอกได้ว่าป้ายนั้นใช้ภาษาอะไร จากนั้นจะแปลเป็นภาษาที่ต้องการ 

 

และในการอัพเดตครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยี Neural Machine Translation (NMT) ถูกผนวกเข้ากับการแปลภาษาด้วยโหมดกล้อง เทคโนโลยี NMT ช่วยให้การแปลเป็นธรรมชาติและแม่นยำมากขึ้น โดยช่วยลดความผิดพลาดของการแปลบางคู่ภาษาลงได้ 55-85% นอกจากนี้ ภาษาส่วนใหญ่ยังสามารถดาวน์โหลดลงในอุปกรณ์ได้ด้วย ทำให้สามารถใช้งานการแปลภาษาด้วยโหมดกล้องได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่เมื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต การแปลภาษาด้วยโหมดกล้องก็จะมีคุณภาพดีขึ้นไปอีก

นอกเหนือจากการอัพเดทข้างต้นแแล้ว การแปลภาษาด้วยโหมดกล้องยังได้รับการปรับโฉมใหม่และทำให้ใช้งานง่ายขึ้นอีกด้วย ได้มีการปรับปรุงให้การแสดงข้อความที่แปลนิ่งมากขึ้นและเข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยการปรับโฉมใหม่นี้ได้นำทั้ง 3 ฟีเจอร์ของการแปลภาษาด้วยโหมดกล้องไปไว้ตรงด้านล่างของแอปพลิเคชัน ฟีเจอร์ทั้ง 3 นี้ ได้แก่ ฟีเจอร์ “Instant” ที่จะแปลข้อความภาษาต่างประเทศให้ทันทีที่หันกล้องไปยังข้อความนั้น ฟีเจอร์ “Scan” ที่สามารถแปลภาษาได้ง่ายๆ เพียงแค่กดถ่ายรูปแล้วใช้นิ้วไฮไลท์ในส่วนที่ต้องการให้แปล และฟีเจอร์ “Import” ให้คุณแปลข้อความจากรูปที่อยู่ในคลังภาพบนโทรศัพท์มือถือ