เอ็มจีซี-เอเชีย ผนึก พีเอสเอ กรุ๊ป ฝรั่งเศส นำเข้า “เปอโยต์” ขายในไทย ประเดิมเอสยูวีรุ่น 3008 ราคาเริ่มต้น 1.6-1.8 ล้านบาท เล็งปูพรมทุกเซ็กเมนต์ทั้ง เก๋ง ซีดาน และปิกอัพพรีเมียม รอ 2-3 ปีทำตลาด “ซีตรอง” เพิ่มอีก 1 แบรนด์
เจ้าพ่อธุรกิจยานยนต์เมืองไทย“เอ็มจีซี-เอเชีย”หรือ บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด ภายใต้การนำของ นายสัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ คว้าสิทธิ์นำเข้าและจัดจำหน่าย “เปอโยต์” เพิ่มอีก 1 แบรนด์ หลังรายเดิม “ยูโรเปี้ยน มอเตอร์ คาร์” (ตระกูล“ลีนุตพงษ์”) ที่ดูแลตลาดมา 47 ปีไม่ต่อสัญญา
“เอ็มจีซี-เอเชีย” จะตั้งบริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด มาดูแลตลาด ประเดิมนำเข้ารถยนต์จากโรงงานผลิตประเทศมาเลเซียรุ่น 3008 และ 5008 ซึ่งเป็นเอสยูวีพื้นฐานการผลิตเดียวกัน วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร ไดเร็กอินเจ็กชันเทอร์โบ 167 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แต่รุ่น 3008 ในตลาดโลกเปิดตัวออกมาก่อน เป็นเบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง ส่วนรุ่น 5008 เป็น เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมทยอยส่งมอบตั้งแต่เดือนกันยายนนี้
สำหรับ เปอโยต์ 3008 จะมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยคือ Active กับตัวท็อป Allure ที่อัดออพชันเต็ม ทั้ง ชุดไฟ LED หน้าและหลัง ล้ออัลลอย 18 นิ้ว หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ระบบเปิดประตูด้านหลังแบบแฮนด์ฟรี ด้านความปลอดภัยจัดเต็ม ทั้ง ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบช่วยขับลงทางลาดชัน (Hill Assist Descent Control) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวชุดใหญ่ ESP และ DSC รวมถึงระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (Emergency Brake Assist) และแจ้งเตือนเมื่อขับรถออกนอกช่องทางวิ่ง (Lane Departure Warning)
เปอโยต์ 3008 รุ่นท็อป Allure จะตั้งราคาขายประมาณ 1.8 ล้านบาท ส่วนรุ่นเริ่มต้น Active ประมาณ 1.6 ล้านบาท ขณะที่เปอโยต์ 5008 วางเบาะ 7 ที่นั่ง ราคาจะอยู่ในช่วง 1.9-2.0 ล้านบาท โดยจะเข้ามาสู้กับเอสยูวี แบรนด์ญี่ปุ่น ทั้งฮอนด้า ซีอาร์-วี,มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 และนิสสัน เอ็กซ์-เทรล หรือจับกลุ่มที่ต้องการคอมแพกต์เอสยูวีระดับพรีเมียม อุปกรณ์ครบครัน แต่ไม่ต้องปีนขึ้นไปจ่ายถึง บีเอ็มดับเบิลยู X1,X3 เมอร์เซเดส-เบนซ์ GLA, GLC
“เราได้รับการสนับ สนุนอย่างเต็มที่จากบริษัทแม่ พีเอสเอ กรุ๊ป พร้อมกดราคาขายลงมาสุดๆ เพื่อให้คนไทยเป็นเจ้าของได้ง่าย ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าสินค้าภายใต้ พีเอสเอ กรุ๊ป จะมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี พร้อมบริการอย่างมืออาชีพ จาก เอ็มจีซี-เอเชีย จึงเกิดเป็นการร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่ง ส่วนราคาอย่างเป็นทางการจะประกาศอีกครั้งในงาน BIG Motor Sale 2019 ระหว่างวันที่ 16-25 สิงหาคม นี้ ที่ไบเทค บางนา ขณะที่เป้าหมายยอดขายยังไม่ได้ตั้งไว้ เพราะต้องรอดูกระแสตอบรับหลังจากการเปิดตัวก่อน แต่ในใจอยากได้เป็นหลักหลายพันคันต่อปี” นายสัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด กล่าวสรุป
ทั้งนี้ พีเอสเอ กรุ๊ป เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ในยุโรป มียอดขายทั่วโลกปี 2018 จำนวน 3.88 ล้านคัน รายได้รวมประมาณ 2.59 ล้านล้านบาท ปัจจุบันมี 5 แบรนด์รถยนต์ที่ทำตลาด คือ เปอโยต์, ซีตรอง, ดีเอส, โอเปิล และวอกซ์ฮอลล์
อย่างไรก็ตาม แผนของ พีเอสเอ กรุ๊ป และ เอ็มจีซี-เอเชีย เตรียมส่งรถยนต์รุ่นใหม่ๆเพื่อทำตลาดในไทย สอดคล้องกับการเพิ่มไลน์อัพการผลิตที่โรงงานประเทศมาเลเซีย เพราะนอกจากเอสยูวี 3008 กับ 5008 แล้ว ภายใน 2 ปีข้างหน้าจะแนะนำรถใหม่อีก 6 รุ่น ทั้งเก๋ง ซีดาน-แฮตช์แบ็ก รวมถึงปิกอัพที่ค่ายรถยนต์จากฝรั่งเศสกำลังซุ่มพัฒนาอยู่ และมีลุ้นกับแบรนด์ ซีตรอง เช่นกัน
ส่วนแผนเปิดโชว์รูม-ศูนย์บริการ จะมีในกรุงเทพฯ 4 แห่ง และต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่อีก 10 แห่ง ส่วนสำนักงานใหญ่ของ เปอโยต์ ประเทศไทย และสาขาในกรุงเทพฯจะเป็นการลงทุนเองของ เอ็มจีซี-เอเชีย
“เราเป็นสินค้าที่อยู่ตรงกลางระหว่างตลาดแมสและพรีเมียม หรือ ไฮเอนด์-เมนสตรีม ซึ่งโมเดลอื่นๆที่จะนำเข้ามาทำตลาดจะเป็นรุ่นอะไร ต้องขอดูการตอบรับของลูกค้า รวมไปถึงระดับราคาว่าสามารถแข่งขันได้หรือไม่ ส่วนการดูแลลูกค้าเก่านั้น ทางผู้จำหน่ายรายเดิมมีการดูแลที่ดี แต่หลังจากหมดสิ้นสัญญาจะถูกโอนย้ายมาที่เรา” ดร.ยอร์ก บรอเยอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปอโยต์ ประเทศไทย กล่าว
นางโลเรนซ์ โนเอล รองประธานอาวุโส อาเซียน พีเอสเอ กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดในภูมิภาคอาเซียนมีความน่าสนใจ และมีศักยภาพที่จะเติบโต โดยเฉพาะในเวียดนาม ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่บริษัทมีโรงงานตั้งอยู่ที่เวียดนาม 1 แห่ง มีกำลังการผลิต 5 หมื่นคัน และที่มาเลเซีย กำลังการผลิต 7.5 หมื่นคัน ขณะที่ยอดขายในภูมิภาคนี้เมื่อปีที่ผ่านมาทำได้ 1 หมื่นคัน แบ่งเป็นแบรนด์เปอโยต์ประมาณ 9,000 คัน และแบรนด์พันธมิตร อาทิ ซีตรอง 1,000 คัน ซึ่งเป้าหมายในปีนี้คาดว่าจะต้องมากกว่าเดิม
“เราอยู่ในช่วงเริ่มต้น โรงงานของมาเลเซียเพิ่งทำการผลิต และได้เริ่มส่งไปที่ฟิลิปปินส์แล้ว ส่วนไทยจะเริ่มในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งความคาดหวังหลังจากนี้คือ การเติบโตและเราจะทำงานร่วมกับเอ็มจีซี-เอเชียในการมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในประเทศไทย”นางโนเอล กล่าว
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,489 วันที่ 21 - 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562