ศาสตร์พระราชาพัฒนาชีวิต เกษตรกรยะลาเพิ่มมูลค่าทำกินสวนทุเรียน 

จากแนวทางการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานพระราชดำริ โดยสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ ได้ทำงานร่วมกับอาสาสมัครพัฒนาพื้นที่ (อสพ.) โดยการนำศาสตร์พระราชา ด้วยหลัก “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” โดย “ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล” ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ กล่าวว่า สิ่งที่ชาวบ้านขาด คือ องค์ความรู้ ดังนั้น สิ่งที่ได้ลงไปช่วยกันพัฒนาชาวบ้านและเกษตรกรหลักๆ ก็คือ การนำองค์ความรู้ด้านเกษตร ด้านการตลาด และการบริหารจัดการ ไปให้

เริ่มจากการพัฒนาจนทำให้ชาวบ้านสามารถสร้างรายได้ในช่วงฤดูลองกอง สร้างยอดขายได้ถึง 25 ล้านบาทในช่วงเวลาสั้นๆ ต่อมา ได้มีการพัฒนาต่อเนื่องมาทีี่ทุเรียน ซึ่งจังหวัดยะลา ถือเป็นจังหวัดที่ปลูกทุเรียนมากที่สุดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ จึงมีนโยบายที่จะสร้างให้เป็น “ทุเรียนซิตี้” 

ปีแรก จากพื้นที่ต้นแบบบ้าน กม. 26 ในตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา ที่ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ และจังหวัดยะลา มีเกษตรกรเข้าร่วม 18 ราย ทุเรียน 324 ต้น ผลผลิต 35 ตันสร้างรายได้รวม 2.7 ล้านบาท รายได้เพิ่มตันละประมาณ 3.5 เท่า โครงการทุเรียนคุณภาพรุ่น 2 ปี 2562 ภายใต้ชื่อ “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพตามศาสตร์พระราชาในจังหวัดชายแดนใต้” งบประมาณ 50 ล้านบาท ความร่วมมือของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีเกษตรกรเข้าร่วม 664 ราย จาก 38 ตำบล จำนวน 22,508 ต้น (จังหวัดยะลา 382 ราย 13,831 ต้นจังหวัดปัตตานี 185 ราย 3,997 ต้น จังหวัดนราธิวาส 97 ราย 4,680 ต้น) โดยการทำประชาคมให้เกษตรกรสมัครใจเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งคัดเลือก “อาสาทุเรียนคุณภาพ” 91 คน 

ล่าสุด ถ้าปิดทองฯ จะมีการคัดเกษตรกรที่ไม่ทำตามคู่มือออก300 ราย และนำเข้ามาใหม่อีก 300 ราย โดยคาดว่าจะทำให้ปีหน้ามีผลผลิตเพิ่มเป็นเกือบ 8,000 ตัน และทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 3 เท่าตัว โดยได้ร่วมมือกับ กลุ่มซีพี ในการทำหน้าที่ให้ทั้งองค์ความรู้และการตลาด โดยปีนี้จะนำทุเรียนที่ได้ ส่งไปขายยังประเทศจีน จำนวน 144 ตู้คอนเทนเนอร์ คิดเป็นทุเรียนประมาณ 2,557 ตัน ซึ่งล่าสุดปิดทองฯ และซีพี ได้รับซื้อทุเรียนที่ราคากิโลกรัมละ 101 บาท สำหรับเกรดดีสุด และเกรด ซี ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 81 บาท 

เป้าหมายที่ “ม.ร.ว.ดิศนัดดา” ตั้งไว้คือ การสร้างให้ที่ยะลา เป็นต้นแบบของการแก้ไขปัญหา โดยนำศาสตร์พระราชา เกษตรทฤษฎีใหม่แบบประณีต มาเป็นเครื่องมือสำคัญ พร้อมทั้งนำเรื่องของการตลาดมาเป็นตัวตั้ง ดูความต้องการของตลาด แล้วสร้างผลิตผลเข้าไปรองรับความต้องการของตลาดนั้นๆ โดยต่อไปเกษตรกร จะต้องสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดเองได้ ทั้งการปลูก การผลิตทุเรียน รวมทั้งการแปรรูปทุเรียน ไปสู่อาหารประเภทอื่นๆ แล้วหาตลาดรองรับ