สสว. จับมือ SMEA ลุยพัฒนาเอสเอ็มอีเอเชียแปซิฟิก
สสว. ร่วมกับSMEA จัดการประชุม APEC Local Innovation Forum: Revitalize Local Development through the Networking of Innovation Ecosystem ระบุเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับแนวปฎิบัติที่ดีและประสบการณ์ในการส่งเสริมนวัตกรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว.ได้ดำเนิการร่วมกับ Small and Medium Enterprise Administration (SMEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมเอสเอ็มอี กระทรวงเศรษฐกิจแห่งไชนีส ไทเป จัดการประชุม “APEC Local Innovation Forum: Revitalize Local Development through the Networking of Innovation Ecosystem” เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับแนวปฎิบัติที่ดีและประสบการณ์ในการส่งเสริมนวัตกรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ทั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคได้นำเสนอนวัตกรรมและแผนธุรกิจ เพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในภูมิภาค อันจะเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่ายระหว่างกัน
สำหรับการดำเนินการโครงการดังกล่าวภายใต้กรอบเอเปค เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ความไม่สมดุลหรือช่องว่างแห่งการพัฒนาระหว่างเขตเมืองและเขตชนบทเป็นความท้าทายของภูมิภาคเอเปคที่ต้องร่วมมือกันจัดการ โดยมากกว่า 26% ของจีดีพี (GDP) ของเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปคส่วนใหญ่มาจากเขตเมือง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่สมดุลทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองเขต การสนับสนุนนวัตกรรมท้องถิ่นเพื่อการเติบโตและพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืนน่าจะเป็นหนึ่งในทางแก้ไขปัญหา เพื่อช่วยลดช่องว่างทางการเหลื่อมล้ำที่เป็นความท้าทายในปัจจุบัน
“การประชุมดังกล่าวอยู่ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากสำนักเลขาธิการเอเปค ในโครงการ APEC Local Innovation Ecosystem Initiative: Revitalization for Inclusive Growth and Sustainable Future ซึ่งนำเสนอร่วมกันระหว่าง สสว. ในฐานะตัวแทนประเทศไทย สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และสหพันธรัฐรัสเซีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบ วิถีชีวิต และอัตลักษณ์ของท้องถิ่น สนับสนุนการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกันในภูมิภาคเอเปค และส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมในท้องถิ่น ทั้งนี้ในแต่ละเขตเศรษฐกิจที่นำเสนอโครงการจะร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในประเด็นที่สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละภูมิภาค”
นายสุวรรณชัย กล่าวต่อไปอีกว่า การประชุมครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ต่อจากการประชุมที่กรุงไทเป ไชนีส ไทเป และ ที่เมือง Tomosk สหพันธรัฐรัสเซีย โดย สสว. และ SMEA ไชนีส ไทเป ภายใต้คณะทำงานเอเปควิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (APEC SME Working Group) ร่วมเป็นเจ้าภาพ บนพื้นฐานแนวคิดเกี่ยวกับความท้าทายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่เท่าเทียมกันในแต่ละภูมิภาคของเอเปค เกิดเป็นช่องว่างระหว่างสังคมเมืองและชนบท โดยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและการท่องเที่ยว ถือได้ว่าเป็นนักรบทางเศรษฐกิจที่สำคัญและเข้มแข็งของไทยมาโดยตลอด
อย่างไรก็ดี รัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญผ่านการดำเนินนโยบายและมาตรการที่หลากหลายรอบด้าน ซึ่งสะท้อนออกมาผ่านหัวข้อหลักในการประชุม Inclusive Approaches to Promote Local Innovation Ecosystem to Revitalize and Transform Thai MSMEs in Food and Tourism Industry into Thailand’s Economic Warriors ที่มีผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งจากในประต่างประเทศ อาทิ ดร. วิเชียร ฤกษ์พัฒนกิจ ที่ปรึกษาจากสถาบันอาหาร ดร. ปรเมษฐ์ ชุ่มยิ้ม ที่ปรึกษาอาวุโส เมืองนวัตกรรมอาหาร นางสาววัชรี ชูรักษา ผู้อำนวยการสำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มร. ทริสทัน ลู่ ผู้อำนวยการโครงการ, ฝ่ายการวิจัย VIII , Taiwan Institute of Economic Research (TIER) ไชนีส ไทเป และ มิสแทมมี่ ฮู ( Tammy Hu), ผู้ก่อตั้ง DOMI Energy ไชนีส ไทเป ร่วมอภิปรายและแสดงความคิดเห็น
นอกจากนี้ การประชุมดังกล่าวยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้วิสาหกิจเริ่มต้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและภูมิภาคเอเปคได้ร่วมแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดี รวมถึงนวัตกรรมแผนธุรกิจและการสนับสนุนที่ได้รับจากภาครัฐ โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากประเทศไทยและไชนีส ไทเป ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะ”