Mook V งัดไอเดียผนึกกลยุทธ์ตลาด สู้พิษเศรษฐกิจ

10 ส.ค. 2562 | 05:30 น.

Mook V นวัตกรรมงาน คราฟต์ ดิ้นสู้พิษเศรษฐกิจ งัดไอเดีย แนวคิดที่แตกต่าง ผนึกการตลาด เจาะหาตลาดนิช ลุยสร้างฐานลูกค้าใหม่ พร้อมเปิดช้อปโชว์ผลงาน หลังทดลองตลาด ไอคอน คราฟท์ ศึกษากลุ่มเป้าหมาย พบกลุ่มอาเซียน และยุโรป มาแรง 

นางเพลินจันทร์  วิญญรัตน์  เจ้าของแบรนด์และดีไซเนอร์ Mook V ภายใต้บริษัท บียอน ลิฟวิ่ง จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากสภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมที่ไม่ดีเท่าใดนักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยมีผลทำให้ยอดคำสั่งซื้อลดลง  บริษัทจึงได้ดำเนินการปรับตัว  ขยายตลาดมาสู่งานคราฟต์ ด้านกระเป๋า ภายใต้แบรนด์ Mook V เนื่องจากเป็นนักออกแบบและผลิตสินค้าเอง มีโรงงานเองอยู่แล้ว จึงสร้างสรรค์ไอเดียออกมาเป็นโปรดักต์ใหม่ๆ ที่เริ่มวางขายผ่าน อินสตาแกรม (Instagram : IG) จนกระทั่งเริ่มวางจำหน่ายในศูนย์การค้า ซึ่งปัจจุบันวางจำหน่ายที่ ไอคอน คราฟท์ ไอคอน สยาม จากเดิมที่เป็นการทำงานด้านสิ่งทอ ผลิตสินค้าที่เป็นงานคราฟต์ อาทิ พรม หมอน ให้กับโรงแรมเชนดังหลายๆ แห่ง อาทิ โฟร์ซีซั่นส์ อนันตรา เลอเมอริเดียน และอีกหลายๆ แห่งทั้งในและต่างประเทศ

Mook V งัดไอเดียผนึกกลยุทธ์ตลาด  สู้พิษเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ จากการทำตลาดมาต่อเนื่อง รวมทั้งการวางจำหน่ายที่ ไอคอน คราฟท์ ซึ่งเป็นโซนสินค้างานคราฟต์ของไอคอน สยาม ทำให้พบว่ากลุ่มลูกค้าหลักของ Mook V ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ อาเซียน และยุโรป รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีบุคลิกโดดเด่น มีความเป็นตัวของตัวเอง ล่าสุดจึงได้ขยายออกมาเปิดช็อป Mook V ที่ เกษร วิลเลจ  เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติโดยตรง  พร้อมทั้งต่อยอดผลิตไลน์สินค้าเพิ่มเติม อาทิ รองเท้า, ผ้าพันคอ, ชุดว่ายนํ้า, กระเป๋าช็อปปิ้ง รวมทั้งเครื่องประดับ โดยขณะนี้ Mook V สามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้แล้ว

 

 

 
 

“นอกจากงานกระเป๋า ที่กำลังขยายตัว งานทอพรม และหมอน ยังคงเดินหน้าต่อ โดยขณะนี้ได้ผลิตกี่ทอผ้าขึ้นมาเอง เพื่อทอพรมกลม ซึ่งมีความต้องการในตลาด แต่มีผู้ผลิตน้อยลาย จึงได้ผสมผสานไอเดียจากชาวบ้าน กับไอเดียการผลิตผ้าทอสมัยใหม่ พัฒนามาเป็นกี่ และสอนให้ทีมงานที่มีอยู่ประมาณ  45 คน ฝึกทอพรมกลมออกมาขายในตลาด  โดยหากจะถามว่า งานที่ทำนี้ยากหรือไม่ ต้องบอกว่าไม่ยาก แต่ต้องใช้เวลานาน  และต้องใช้ความอดทน ต้องชอบจริงๆ เราทำด้วยใจรัก งานทุกชิ้นมันเป็น Conceptual Design ซึ่งเราออกแบบเอง คิดเอง และลงมือทำเอง”  

Mook V งัดไอเดียผนึกกลยุทธ์ตลาด  สู้พิษเศรษฐกิจ

ส่วนของตลาด ซึ่งมีปัญหาจากเศรษฐกิจ ทำให้ออร์เดอร์ลดลงและมีชะงักไปบ้างนั้น  ปัจจุบันจึงเริ่มขยายตลาดเข้าหาผู้ซื้อด้วยตนเองโดยตรง (Retail) หรือการติดต่องานโดยตรงกับโครงการต่างๆ ทั้งบ้าน วิลล่า คอนโดมิเนียม โดยจะมีการดีไซน์โปรดักต์ให้ฟิตกับสถานที่นั้นๆ เป็นงานทำมือที่คิดและวางคอนเซ็ปต์ให้ตอบโจทย์ กับเจ้าของ โดยจะมีการทำสินค้าตัวอย่างให้ลูกค้าดูก่อน เพื่อสร้างความพอใจสูงสุดให้ลูกค้า

“ออร์เดอร์ใหญ่จากโปรเจ็กต์โรงแรมต่างๆ ยังคงทำอยู่ และขณะนี้เริ่มมีกลับเข้ามาแล้ว สำหรับงานออร์เดอร์ขนาดใหญ่จะใช้เวลาทำงานนานราว 2-3 เดือน ในขณะนี้ได้มาร์จินประมาณ 30% ส่วนงานรีเทล หรือ Fit Your Space ที่รับทำวิลล่า บ้านของต่างชาติหรือ คอนโดมิเนียมห้องพัก จะใช้เวลาผลิตไม่นาน เพราะของจะน้อยชิ้นกว่า ในขณะที่มาร์จินจะได้สูงกว่า เพราะฉะนั้นช่วงนี้จึงมีการติดต่อกับอินทีเรียร์ดีไซน์โดยตรง”

นางเพลินจันทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า อีกหนึ่งงานที่รับทำต่อเนื่อง คือ การออกแบบตกแต่งร้าน ซึ่งล่าสุดยังได้รับความไว้วางใจจาก Louis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง) ประเทศฝรั่งเศส ให้ออกแบบและตกแต่งร้าน Louis Vuitton สาขาไอคอน สยาม  ซึ่งเป็นการออกแบบตกแต่งแบบผสมผสานระหว่าง Louis Vuitton DNA กับความเป็นไทย ภายใต้ธีม The River of King และขณะนี้ยังมีการประชุมพูดคุยถึงการออกแบบให้กับช็อปอื่นๆ ของ Louis Vuitton เพิ่มเติมอีกด้วย

Mook V งัดไอเดียผนึกกลยุทธ์ตลาด  สู้พิษเศรษฐกิจ

สำหรับจุดแข็งของแบรนด์ Mook V คือ การที่เจ้าของแบรนด์เป็นนักคิด นักออกแบบ ที่สามารถสร้างสรรค์งานได้จากสิ่งรอบๆ ข้างที่พบเห็น แล้วนำมาต่อยอดพัฒนาไอเดียออกมาเป็นลายและโปรดักต์ที่แตกต่างมีเอกลักษณ์ แม้ที่ผ่านมาจะมีการถูกลอกเลียนแบบ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะ “นางเพลินจันทร์” บอกว่า ทุกอย่างอยู่ในหัวไม่ต้องกลัวใครก๊อป แม้จะมีคนก๊อปก็สามารถคิดได้ใหม่ และบางครั้งก็ยังสามารถต่อยอดไอเดียจากงานก๊อปเหล่านั้น สร้างต่อเป็นงานชิ้นใหม่ที่มีมูลค่าขึ้นได้ต่อเนื่อง หลังจากนั้น จึงนำมาผสมผสานกับแนวคิดด้านการตลาด ซึ่งมีพาร์ตเนอร์รับหน้าที่บริหารจัดการ 

หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3494 วันที่ 8-10 สิงหาคม 2562

Mook V งัดไอเดียผนึกกลยุทธ์ตลาด  สู้พิษเศรษฐกิจ