กสทช. ร่วม สตช.เอาจริงผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ฟุตบอล "พรีเมียร์ลีก"

06 ส.ค. 2562 | 11:36 น.

กสทช ร่วมมือ สตช. หารือแนวทางระงับการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ผ่านช่องทางออนไลน์ในประเทศไทย

กสทช. ร่วม สตช.เอาจริงผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ฟุตบอล "พรีเมียร์ลีก"

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า. ตามที่ ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชฑูตอังกฤษประจำประเทศไทย และผู้แทนจาก The Football Association Premier League Limited หรือ FAPL ประเทศสหราชอาณาจักร ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับทางสำนักงาน กสทช. เพื่อให้มีการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาออนไลน์ที่จะมีการถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ ลีกขึ้น กสทช. จึงได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางระงับการละเมิดลิขสิทธิ์ของการถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ผ่านทางช่องทางออนไลน์ในประเทศไทย

 

“หน่วยงานที่เข้ามาร่วมประชุมหารือวันนี้ ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กระทรวงดีอี ผู้แทนจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย หรือ ISP และผู้แทนจากทั้ง 2 หน่วยงานที่ทำหนังสือร้องเรียนเข้ามา”

 

กสทช. ร่วม สตช.เอาจริงผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ฟุตบอล "พรีเมียร์ลีก"

ทั้งนี้กสทช.ขอชี้แจงขั้นตอนของการดำเนินการในการปราบปรามการการละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาออนไลน์ ดังนี้ 1.ให้ผู้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ในประเทศไทย หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ เข้ามาดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานสอบสวน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์และทางออนไลน์ (COPTICS) ที่ตั้งอยู่ ณ สำนักงาน กสทช. ถนนพหลโยธิน ซอย 8 กรุงเทพมหานคร

 

2.เมื่อเจ้าพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว และส่งเรื่องมาให้สำนักงาน กสทช. เพื่อดำเนินการส่งเรื่องไปให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย (ISP) ทำการปิดกั้นเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ต่อไปซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 2 วันในการดำเนินการ

กสทช. ร่วม สตช.เอาจริงผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ฟุตบอล "พรีเมียร์ลีก"

3.สำหรับเว็บไซต์ที่มีการเข้ารหัส หรือ เว็บไซต์ที่มีการเผยแพร่อยู่บนสื่อออนไลน์ อาทิ เฟสบุ๊ก ยูทูบ ไลน์ เป็นต้น หากไม่สามารถระงับเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ สำนักงาน กสทช. จะมีหนังสือขอความร่วมมือไปยังสถานทูตของประเทศที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการระงับเนื้อหาที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ต่อไป