KWG แตกไลน์ธุรกิจ ประกันความเสี่ยง ‘เมกะโปรเจ็กต์’

08 ส.ค. 2562 | 04:26 น.

หลังคิง ไว กรุ๊ป จากฮ่องกง เข้าซื้อกิจการ บริษัท เคปเปล ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) และทำการเปลี่ยนชื่อเป็นบมจ.คิง ไว กรุ๊ป (ประเทศไทย) หรือ KWG ตั้งแต่ปี 2559 ในปีที่ผ่านมาบริษัทยังได้แตกไลน์สู่ธุรกิจประกันภัย โดยตั้ง บริษัทคิง ไว อินชัวแรนซ์ โบรกเกอร์ แอนด์ คอนซัลแทนท์ จำกัด (บจก.)ถือหุ้นใหญ่โดยบจก.คิง ไว แคปปิตอล (ถือโดยบมจ. คิง ไว กรุ๊ป (ประเทศไทย) ในสัดส่วน 99.99%

นายแอริค หวง กรรมการคิง ไว กรุ๊ป และในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท คิง ไว อินชัวแรนซ์ฯ กล่าวกับ ฐานเศรษฐกิจว่า KWG เข้ามารุกธุรกิจประกัน เพราะเห็นโอกาสจากการที่เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนด้วยการบริโภค เทรดการค้า และมีโครงการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐาน (Infrastructure) จำนวนมาก อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินฯลฯ แต่เป็นที่สังเกตกลับไม่มีบรรจุในแผนงบประมาณ เมื่อเข้าไปดูรายละเอียดพบว่าเพราะงบประมาณไม่เพียงพอ  เมื่อไม่มีงบประมาณก่อสร้าง การจะหางบในการทำประกันด้านอินฟราสตรักเจอร์ยิ่งยาก

 

KWG แตกไลน์ธุรกิจ  ประกันความเสี่ยง ‘เมกะโปรเจ็กต์’

แอริค หวง

“เรามองเป็นโอกาสทางธุรกิจที่จะเสนอประกันความคุ้มครองให้กับโปรเจ็กต์เหล่านี้ ทั้งในเรื่องของเงินทุน การประกันการก่อสร้างในช่วงต่างๆ รวมถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง  KWG มีความพร้อมด้านทุน และเทคโนโลยี อีกทั้งคู่แข่งด้านนี้ก็ยังมีน้อย  ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาดีลประกันให้กับโครงการรถไฟความเร็วสูง

คิง ไว อินชัวแรนซ์ฯ จะให้บริการใน 2 ประเภทคือ 1. Commercial Insurance ครอบคลุมบริการประกันภัยด้านเทรดเครดิต โครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน  ขนส่งทางเรือ (Marine) เรือยอชต์ ฯลฯ 2. ประกันภัยส่วนบุคคล (Personal Life) ให้ประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยผ่านธนาคารพาณิชย์ ประกันด้านอัคคีภัย และอุบัติเหตุ เป็นต้น

บริษัทตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี จะเป็นผู้นำตลาด Commercial Insurance หลังจากที่เปิดให้บริการในปีแรกได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ โดยในช่วงแรกยังมุ่งเน้นการพัฒนาองค์กรภายใน นำนวัตกรรมมาปรับใช้งานด้านบริการ

ส่วนทางด้านธุรกิจหลัก "อสังหาริมทรัพย์" KWG จะแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ 1. การพัฒนาคอมมิวนิตี หรือเมือง เป็นโครงการลงทุนระยะยาวด้านที่อยู่อาศัยและการศึกษา บริษัทมีที่ดินในมือกว่า 5,000 ไร่ คือที่จังหวัดฉะเชิงเทรากว่า 2,000 ไร่อยู่ใต้อีอีซี และอีกแห่งที่วังน้อยพระนครศรีอยุธยา อีกประมาณ 2,000 ไร่

2. การพัฒนาโครงการบ้าน ปัจจุบันมีโครงการบ้านหรู ดับบลิว วิลล่า วัชรพล บาย เคดับบลิวจี มูลค่าโครงการ 1,500-2,000 ล้านบาท สร้างบนพื้นที่ 78 ไร่   จะเริ่มรับรู้รายได้ในโซนแรกตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้  ส่วนโครงการวิลล่า อะคาเดีย ศรีนครินทร์ บาย เคดับบลิวจี บริษัทขายหมดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และ 3. การพัฒนาโครงการคอนโดฯในเมือง เป็นคอนโดฯโลว์ไรส์โดยไตรมาส 4/2562 จะเปิดตัวโครงการ เอส 61 สุขุมวิท บาย เคดับบลิวจี และยังมีโครงการ เอส 31 สุขุมวิท ซึ่งจะเปิดตัวถัดไป มูลค่ารวมทั้ง 2 โครงการรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีที่ดินบนถนนพระราม 4 (ตรงข้ามจุฬาฯ)จะพัฒนาโครงการไฮไรส์  

“KWG ไม่ได้เน้นว่าต้องเป็นผู้นำด้านอสังหาฯที่มียอดเติบโตระดับท็อป แต่เราต้องการเป็นแบรนด์ที่คนไทยรู้จักและให้ความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัย บาย เคดับบลิวจี ว่าเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพอยู่แล้วมีความสุข ดังนั้นแต่ละปีจะเปิดตัวเพียง 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,000 - 3,000 ล้านบาท 

ด้านแหล่งเงินลงทุนจะมาจากส่วนของผู้ถือหุ้นหลังบริษัทได้เพิ่มทุนก่อนหน้านี้วงเงิน 1,852 ล้านบาท ปัจจุบันยังเหลือ 336 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้เพื่อการจัดซื้อที่ดินและชำระเงินกู้สถาบันการเงิน  ขณะที่โครงการการพัฒนาคอมมิวนิตีในจังหวัดฉะเชิงเทราและอยุธยา จะใช้แหล่งทุนจากพันธมิตรที่ร่วมธุรกิจ ผลประกอบการ บริษัทมีรายได้รวม สิ้นปี 2561 และไตรมาส 1/2562  จำนวน  776 ล้านบาท และ-33 ล้านบาท ตามลำดับ  และมีกำไรสุทธิ 35 ล้านบาท และ -160 ล้านบาท ตามลำดับ

 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,494 วันที่ 8-10 สิงหาคม 2562

KWG แตกไลน์ธุรกิจ  ประกันความเสี่ยง ‘เมกะโปรเจ็กต์’