เตรียม 'ไทย' ให้พร้อม รับมือโลกวิกฤติ

07 ส.ค. 2562 | 09:10 น.

บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3494 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 8-10 ส.ค.2562

 

เตรียม 'ไทย' ให้พร้อม

รับมือโลกวิกฤติ

 

            ปั่นป่วนไปทั้งโลก เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้า 10% จากจีน ในส่วนสินค้าที่เหลืออีก 3,812 รายการ วงเงินกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่รอผลคณะทำงาน 2 ฝ่ายที่กำลังเจรจากันอยู่

            ทำให้จีนประกาศตอบโต้ ด้วยการสั่งระงับการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐอเมริกาทันที ตามมาด้วยการลดค่าเงินหยวนลงเหลือระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าสุดในรอบ 11 ปี ซึ่งสหรัฐฯก็ขึ้นบัญชีจีนว่าเป็นประเทศปั่นค่าเงิน ท่ามกลางการเฝ้าจับตาว่า จากนี้ไปใครจะงัดมาตรการอะไรออกมาฟาดฟันกันอีก ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกตกรูดถ้วนหน้า

            นับเป็นสงครามการค้ายกที่ 2 จากที่สหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนระลอกแรกกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯไปก่อนหน้า ที่กระทบการค้าโลกและฉุดการเติบโตเศรษฐกิจโลกให้ทรุดตํ่าลง รวมถึงไทยที่ต้องปรับลดเป้าการเติบโตการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยลง จากต้นปีตั้งไว้ที่เติบโต 8% แล้วปรับลดเหลือ 3 % เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ ผลกระทบสงครามการค้าระลอกใหม่ ทำให้ประเมินกันว่าการส่งออกปีนี้อาจเหลือ 0% หรือถึงขั้นติดลบ

            นอกจากนี้ยังยกระดับความขัดแย้งของ 2 มหาอำนาจโลก จากสงครามการค้าที่ใช้มาตรการทางภาษีแล้ว ระหว่างนี้ยังยกระดับเป็นสงครามเทคโนโลยี เมื่ออเมริกาควบคุมตัวผู้บริหารระดับสูงและเตรียมแบนสินค้าไอทีของหัวเหว่ย จนตลาดสินค้าโทรคมนาคมปั่นป่วนไปทั่ว ส่วนทางจีนก็ส่งสัญญาณงดส่งตลาดแร่หายากสำหรับอุปกรณ์ไฮเทคให้อเมริกา

            ล่าสุดในสงครามการค้ายก 2 จีนใช้มาตรการค่าเงินตอบโต้การประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีนของสหรัฐฯ ที่ยิ่งเขย่าตลาดเงินตลาดทุนไปทั่ว ลากดึงทั้งโลกเข้าสู่สงครามค่าเงินที่ต้องจับตา ว่าจะเป็นชนวนให้แต่ละประเทศต้องออกมาปกป้องค่าเงินของตน เพื่อเป็นการป้องกันตนเองจนลุกลามไปทั้งโลกหรือไม่

            ผลกระทบจากโลกปั่นป่วนนี้ไทยเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากโครงสร้างเราเป็นเศรษฐกิจแบบเปิด มีภาคการค้าและบริการขนาดใหญ่ ที่ผันแปรไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกโดยตรง จึงกระทบทั้งการส่งออกที่ขายได้ยากขึ้นแล้ว ค่าบาทที่แข็งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลอื่น ทำให้ทั้งสินค้า บริการ รวมถึงการท่องเที่ยวไทยแพงขึ้น สวนทางกับเป้าหมายฟื้นการส่งออกและการท่องเที่ยวที่กำลังพยายามอย่างหนักเวลานี้

            สถานการณ์โลกเช่นนี้เป็นภาระหนักของรัฐบาล ที่ต้องเตรียมความพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงให้ทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่ต้องล่าช้าไปเริ่มได้ในต้นปีหน้า ควรต้องทบทวนแผนงานและเม็ดเงิน ให้มีงบประมาณพร้อมรับสถานการณ์ที่ไม่คาดหมาย ควบคู่ไปกับมาตรการรับมือจากนี้ไป ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ทุกภาคส่วน เพราะความเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่ที่สื่อคลุมโลกนี้เกิดได้ในพริบตา