บิ๊กสภาหอฯ-สภาอุตฯ ตบเท้าพบผู้ว่าแบงก์ชาติ ถกนโยบายการเงินช่วยส่งออก-เอสเอ็มอีพ้นวิกฤติ ขณะเตรียมประชุมร่วม กรอ.พาณิชย์หวัง “จุรินทร์” ช่วยผลักดันแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรค ดันการค้า-ลงทุนคล่องตัว
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยว่าวันนี้ 8 สิงหาคม เวลา 13.00 น.ผู้บริหารของสภาหอการค้าฯ จะเข้าพบดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โดยมีประเด็นหารือหลายเรื่องที่จะเสนอให้ ธปท.ช่วยพิจารณาดำเนินการ หนึ่งในเรื่องสำคัญคือข้อเสนอแนะในการทำให้เงินบาทอ่อนค่าเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย ล่าสุดกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.75% ลงเหลือ 1.50% เป็น 1 ใน 10 ออฟชั่น(ทางเลือก)ที่ทางสภาหอฯ เตรียมนำเสนอเพื่อช่วยให้เงินบาทอ่อนค่า(แต่ กนง.ได้ประกาศปรับลดดอกเบี้ยเสียก่อน)
กลินท์ สารสิน
อย่างไรก็ดีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้มองเป็นผลบวกกับประเทศ ซึ่งนอกจากอาจจะช่วยให้ค่าเงินบาทไม่แข็งค่ากระทบความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกมากกว่าที่เป็นอยู่แล้ว มองว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เพราะแทนที่ประชาชนจะนำเงินไปฝากกินดอกเบี้ย แต่จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงไม่จูงใจประชาชนจะนำเงินมาจับจ่ายใช้สอยหมุนเวียนในระบบมากขึ้น ต้องขอขอบคุณ กนง.ในครั้งนี้ นอกจากนี้มีอีกหลายประเด็นที่จะหารือกับ ธปท.
ขณะเดียวกันในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ สภาหอการค้าฯในนามคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน(กรอ.)จะไปประชุมร่วมกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ (การประชุม กรอ.พาณิชย์ครั้งแรก) เพื่อหารือว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างไร รวมถึงกระตุ้นการส่งออก และค้าในประเทศด้วย
สุพันธุ์ มงคลสุธี
ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เผยว่า ในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ เวลา 17.00 น.จะนำคณะเข้าพบผู้ว่าฯธปท. การเข้าพบครั้งนี้ส่วนหนึ่งอยากทราบนโยบายทางด้านการเงินของ ธปท.ในการช่วยเหลือเอสเอ็มอี รวมถึงนโยบายด้านดอกเบี้ย เพราะที่ผ่านมาการแข็งค่าของเงินบาท และอัตราดอกเบี้ยที่ผลต่อค่าเงินบาท ส่งผลกระทบต่อภาคเอกชนมาก
ขณะที่ในวันที่ 14 สิงหาคม 2562 ทางผู้บริหาร ส.อ.ท. จะไปประชุม กรอ.พาณิชย์ เบื้องต้นคาดจะมีการหารือกันในเรื่องกฎหมาย และกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการอำนวยความสะดวกด้านการค้า การลงทุนของประเทศที่ควรจะแก้ไข หรือยกเลิก รวมถึงความร่วมมือในการผลักดันเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของประเทศ
“ส่งออกปีนี้อย่างไรก็ลำบาก เพราะเรื่องค่าเงินอย่างไรเราก็ช้าในทิศทางที่ยังแข็งค่า แม้จะอ่อนลงมาก็ไม่ทันเขา ตลาดส่งออกเองก็แย่ สิ่งเดียวที่รัฐบาลต้องทำก็คือกระตุ้นเศรษฐกิจจากการบริโภคภายในให้ขึ้นมา เพราะคนส่วนใหญ่อยู่ที่การบริโภค ไม่ได้อยู่ที่ส่งออกที่มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องเยอะมา แก้ไขลำบาก”
ดร.วิรไท สันติประภพ
ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำคือการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภายในโดยต้องอัดฉีด ราชการ รัฐมนตรีทุกกระทรวง ทุกหน่วยก็ต้องพยายามผลักดันลงไป จะเพิ่มการผลักดันโดยวิธีอย่างไร หรือโดยวิธีเอาภาษีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้บริโภค สนับสนุนเรื่องการดูแลราคาสินค้าเกษตร หรือแม้แต่อสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ สิ่งเหล่านี้ควรจะต้องเอามาดำเนินการ เพราะตัวเลขส่งออกอย่างไรก็ไม่มีทางดีในครึ่งปีหลัง จากสถานการณ์ยังอึมครึมอยู่ตลอดเวลา