‘สงครามราคา’  แก้ผิดจุด  เมื่อรัฐ-แบงก์ชาติยังเดินสวนทาง

14 ส.ค. 2562 | 05:00 น.

คอลัมน์ผ่ามุมคิด

หลังเผชิญความเปลี่ยน แปลงหลายด้านทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามการค้า แต่ที่ ร้ายสุด หวั่นสงครามราคา รายใหญ่ ลด แลก แจก แถม เพื่อเคลียร์สต๊อก ทำภาพรวมเสียหาย นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชีวาทัย หรือ CHEWA ระบุว่า ตลาดอสังหาฯเหนื่อยสุด ทางออกรัฐบาล และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จับมือเดินทางเดียวกัน แก้อัตราสินเชื่อต่อมูลค่าที่อยู่อาศัย (LTV) ให้ซื้อ-ขายคล่องกระตุ้นยอด ขณะเดียวกันใส่เกียร์เดินหน้า 7 โครงการใหม่ บูมซัพพลาย เกษตร-นวมินทร์ ชูจุดแข็งไลฟ์สไตล์บวกนวัตกรรมอยู่อาศัยลํ้าสุดสู้ศึกโหด

เผชิญสงครามราคา

ยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่ท้าทายมาก สำหรับดีเวลอปเปอร์ หลังจากเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลายประการ ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ ตลาดอสังหาฯในกทม. มีการแข่งขันกันสูงมาก นักลงทุนหายไปจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวจีนที่มีผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนไทยที่แข็งค่า จากเดิม 1 หยวน มีค่าเท่ากับ 5 บาท แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 4.37 บาท หายไปเกือบ 10% ทำให้ยอดขายหายไปมาก ซึ่งนอกจากผู้ประกอบการจะต้องระมัดระวังในการสรรหาที่ดินใหม่ ใช้แผนการขาย และโปรดักต์แปลกๆ รวมถึงชะลอ รอจังหวะที่เหมาะสมในการเปิดโครงการใหม่แล้ว อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือเริ่มเห็นผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ เล่นสงครามด้านราคา เร่งระบายสินค้าคงเหลือ หนีความเดือดร้อน แต่ส่วนตัวมองว่า ในระยะยาวจะเป็นผลเสียต่อตลาด

แม้บริษัทมีแผน กลยุทธ์ รับมือกับทุกสถานการณ์ของภาวะตลาด แต่ก็กังวลเมื่อหลายค่ายหันมาทำสงครามด้านราคา ลดนู่นแถมนี่ เพื่อระบายสต๊อก ด้วยนโยบายเราไม่ทำ เพราะสุดท้ายมองว่าจะไม่เป็นผลดีต่อตลาด

บุญ ชุน เกียรติ

 

ธปท.-รัฐเดินสวนทาง

มองว่าภาพรวมตลาดที่แย่ลง นอกจากจะมาจากเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในกระบวนการ รายละเอียดไม่ชัดเจน, เรื่องมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่ที่มีวี่แววว่าจะเข้มงวดเพิ่มเติมมากขึ้นอีกจากเงื่อนไข LTV ที่ซํ้าเติมอยู่ก่อนแล้ว ปัจจัยที่ทำลายร้ายที่สุด คือความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐ ที่อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะใช้มาตรการอย่างไรออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดหวังให้มองมาถึงภาคอสังหาฯ แต่อย่างไรก็ตาม ยังกังวลเมื่อสิ่งที่ ธปท. กำลังดำเนินการยังสวนทางไม่สอดคล้องกัน

เคยประเมินว่าตลาดอสังหาฯจะโตได้ เมื่อจีดีพีแตะ 4% แต่ล่าสุดเหลือเพียง 3% ต้นๆ อาจแย่ ฉะนั้นหาก ธปท.และรัฐบาลยังไปคนละทิศคนละทาง เดินสวนทางกันเช่นนี้ ตลาดแย่แน่ การปรับตัวใดๆของผู้ประกอบการก็ไม่เป็นผล

 

บูมเกษตร-นวมินทร์

สำหรับในช่วงครึ่งหลังปี 2562 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ รวมมูลค่ามากกว่า 7.2 พันล้านบาท รวมทั้งแนวราบและแนวสูง เช่น โครงการชีวารมย์ นครอินทร์,ชีวาทัย ปิ่นเกล้า, ชีวาโฮม กรุงเทพฯ- ปทุมธานี และโครงการไฮไลต์ชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์มูลค่า 1.7 พันล้านบาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ 25 ชั้น 649 หน่วย ตั้งเป้ายอดขายช่วงพรีเซลเดือนสิงหาคม 40-60% เจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งนักลงทุนและผู้ซื้ออยู่จริง เนื่องจากใกล้สถานศึกษาชื่อดัง ทั้ง .เกษตรศาสตร์, ศรีปทุม มีไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์จากห้าง- ตลาดนัดดังหลายแห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ เมเจอร์รัชโยธิน เซ็นทรัลลาดพร้าว ประกอบกับใกล้เคียงกับโรงพยาบาลหลายแห่ง คาดจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทั้งนิสิต-นักศึกษา-คนทำงาน เจน Y อายุ 25-40 ปี

ทำเลใกล้สถานศึกษาเป็นที่สนใจของนักลงทุนเมื่อนึกถึงผลตอบแทนจากการปล่อยเช่ามักคุ้มค่า ขณะที่ในอนาคตจะได้อานิสงส์จากรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) และรถไฟฟ้าโมโนเรล (สายสีนํ้าตาล แคราย-ลำสาลี) ไม่นับรวมตอม่อเก่าที่จะเปลี่ยนโฉมเป็นถนนยกระดับใหม่ สร้างความเจริญให้ทำเล

 

ชูจุดแข็งใหม่

นายบุญ ยังกล่าวต่อว่า นอกจากทำเลที่ตั้งที่ดี มีแหล่งไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์แล้วหลังจากนี้ในทุกๆ โครงการ บริษัทยังเตรียมนำเทคโนโลยี Home Auto mation มาชูเป็นจุดแข็งใหม่ด้วย หลังจากจับมือกับบริษัทด้านเทคโนโลยีชื่อดังของโลกสัญชาติเกาหลี COMMAX ร่วมพัฒนานวัตกรรมยกระดับการอยู่อาศัยให้กับลูกบ้านด้วยความทันสมัยและสมบูรณ์แบบที่สุดเป็นเจ้าแรกๆของไทย สั่งการการเข้า-ออกโครงการและห้องพักผ่านระบบแอพพลิเคชันมือถือ เช่นเดียวกับการสั่งเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องพัก วิดีโอโฟนกับเพื่อนบ้าน หรือแม้กระทั่งตรวจเช็กความหนาแน่นของผู้ใช้งานส่วนกลางด้วยกล้องวงจรปิดในแอพ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและให้การใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อ คาดจะเป็นฟังก์ชันที่อำนวยความสะดวกและตอบโจทย์สำหรับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้อย่างดี

 

หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,495 วันที่ 11-14 สิงหาคม 2562

 

‘สงครามราคา’  แก้ผิดจุด  เมื่อรัฐ-แบงก์ชาติยังเดินสวนทาง