กสิกรไทยชี้SMEsครึ่งปีหลังหืดจับ

15 ส.ค. 2562 | 11:45 น.

 

กสิกรไทย ลั่นธุรกิจเอสเอ็มอีครึ่งปีหลังยังหืดขึ้นคอ เหตุปัจจัยทั้งภายในและภายนอกรุมเร้า กระทบกำลังซื้อหด เศรษฐกิจชะลอตัว ลั่นไม่เหยียบคันเร่งปล่อยกู้ ยอมรับเห็นสินเชื่อโต 3% ถือว่าดีแล้ว

นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ช่วงครึ่งหลังปี 2562 น่าจะชะลอตัวต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ซึ่่งเป็นผลจากปัจจัยภายในและภายนอกเข้ามากระทบ โดยเฉพาะสงครามการค้าหากยืดเยื้อจะกระทบต่อไทยมากขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่ากว่าในภูมิภาคกดดันต่อผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าโดยรวมทำธุรกิจยากมากขึ้น

 

กสิกรไทยชี้SMEsครึ่งปีหลังหืดจับ

วีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร

ดังนั้นธนาคารจะไม่เร่งขยายตัวสินเชื่อในช่วงที่เหลือของปีมากนัก คาดว่าสินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งปีน่าจะขยายตัวในกรอบล่าง จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2-4% หรือเติบโตได้ 3% ถือว่าค่อนข้างดี จากช่วงครึ่งปีแรกเติบโตเพียง 1% หรือคิดเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่ 7.4 หมื่นล้านบาทใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดสินเชื่อเอสเอ็มอีคงค้าง 6.6 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 0.1% สะท้อนว่า ลูกค้าชำระคืนหนี้ แต่ไม่มีการเบิกใช้วงเงินใหม่ ทำให้พอร์ตสินเชื่อลดลง

ทั้งนี้ ยอดสินเชื่อเอสเอ็มอีคงค้าง 6.6 แสนล้านบาท แบ่งเป็น เอสเอ็มอีขนาดกลางที่มียอดขายตั้งแต่ 50-400 ล้านบาท 4.2 แสนล้านบาท กลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ที่มียอดขายตั้งแต่ 10-50 ล้านบาท 2 แสนล้านบาท และกลุ่มเอสเอ็มอีไมโครมีพอร์ตคงค้างอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าสิ้นปียอดสินเชื่อคงค้างรวมจะเพิ่มเป็น 6-7-6.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 1.3 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากมาดูกลุ่มเอสเอ็มอีที่ขยายตัวค่อนข้างดี จะเป็นกลุ่มไมโครที่เติบโตสูงถึง 80% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานที่ตํ่า และกลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็กเติบโต 27% ขณะทีกลุ่มเอสเอ็มอีขนาดกลางมีอัตราการเติบโตติดลบ 11% โดยช่วงที่เหลือ ธนาคารจะมุ่งเน้นขยายในกลุ่มเอสเอ็มอีขนาดกลางกลุ่มล่างๆ ที่มีความมั่นคงระดับหนึ่ง และเป็นกลุ่มที่มีสภาพคล่อง และต้องการเงินทุนหมุนเวียน

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าจะขยายตัวไปได้ดีจะอยู่ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง ซับคอนแทร็กต์ เพราะได้อานิสงส์จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะเร่งดำเนินการในช่วงครึ่งหลังของปี และกลุ่มฟรีแลนซ์ กลุ่มค้าขายออนไลน์  ส่วนกลุ่มที่ยังน่าเป็นห่วงและได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยภายในและภายนอก จะเป็นกลุ่มที่ผลิตสินค้าแบบเดิม และพึ่งพาแรงงานจำนวนมาก กลุ่มภาคเกษตร ที่กำลังซื้อลดลงตามราคาพืชผลที่ไม่ดี แม้ภาครัฐจะมีมาตรการมาช่วยกลุ่มนี้ แต่เป็นมาตรการที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว จึงเป็นโจทย์ใหญ่ของภาครัฐที่จะช่วยพยุงกำลังซื้อของคนเหล่านี้ ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)อยู่ที่ 5% จากเอ็นพีแอลรวมทั้งธนาคาร 7% คาดว่าสิ้นปีจะพยายามรักษาเอ็นพีแอลให้อยู่ที่ 5% ใกล้เคียงกับปีก่อน

เอสเอ็มอีครึ่งปีหลังยังเหนื่อย แม้จะกระตุ้นก็ฟื้นค่อนข้างยาก หนี้ครัวเรือนก็สูงขึ้น ผู้ประกอบการที่อยู่ในสายการผลิตแบบเดิมๆจะเหนื่อย เพราะกำลังซื้อชะลอ สะท้อนจากสินเชื่อครึ่งปีแรกที่ทรงตัว เพราะไม่รู้จะเอาเงินไปขยายอะไร ดังนั้นครึ่งปีหลังเราคงไม่เหยียบคันเร่งแน่นอน ทั้งปีโตได้ 2-3% ถือว่าเก่งแล้ว

 

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,496 วันที่ 15-17 สิงหาคม 2562

กสิกรไทยชี้SMEsครึ่งปีหลังหืดจับ