ขุนคลังมั่นใจ แพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ รับโลกผันผวนได้

รมว.คลังเผย ครม.เศรษฐกิจ 16 ส.ค. เตรียมพิจารณาแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ มั่นใจรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ พร้อมวอนขอบริษัท set 50 หนุนเกิดลงทุนใหม่ แนะขยายลงทุนต่างประเทศ หวังแก้บาทแข็ง

               ในงานเปิดโครงการเสริมสร้างตลาดทุนธรรมาภิบาลเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​การคลัง​เปิดเผยว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จะเสนอแพคเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังในระยะเร่งด่วน ให้คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณา โดยยืนยันว่า มาตรการที่ออกมาจะเพียงพอต่อการรับมือความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยไม่ให้เศรษฐกิจไทยปรับตัวลดลงกว่าที่ควรจะเป็น

               นอกจากนี้รมว.คลัง ยังระบุถึงบทบาทตลาดทุนไทยและความคาดหวังเกี่ยวกับธรรมภิบาล และความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนว่า ตลาดทุนเป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาประเทศ เพราะที่ผ่านมาได้รับการจัดอันดับจาก กองทุนสำรองระหว่างประเทศ หรือ IMF และ World Bank ให้ตลาดทุนไทยมีการกำกับดูแลอยู่ในระดับดีมาก จึงอยากจะให้ภาคตลาดทุนได้ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อป้องกันการผันผวนจากปัจจัยภายนอก ซึ่งรัฐได้สนันสนุนให้เอกชนไทยลงทุนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทที่เเข็งค่าได้ โดยกระทรวงการคลังจะไม่เข้าไปแทรกแซงการบริหารค่าเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย

"ไทยมีศักยภาพถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี ตลบาดทุนเติบโตได้เป็นอย่างดี จึงอยากให้มีการขยาย Go Beyond SET 50" เพื่อช่วยให้พลังของตลาดทุนไทยสร้างความเข็มแข็งให้กับประเทศ ด้วยการทำให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยใช้ศักยภาพที่สะสมมาออกมาใช้ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นความร่วมมือครั้งนี้ชัดเจนภายในปีนี้แน่นอน และรัฐบาลสนับสนุนโดยการลดอุปสรรคการลงทุนต่างๆให้กับนักลงทุนอย่างเต็มที่เช่นกัน"

นายอุตตมยืนยันว่า  รัฐบาลทำงานได้อย่างต่อเนื่องแม้จะมีพรรคร่วมรัฐบาลถึง 19 พรรคซึ่งเห็นได้จากรัฐบาลและนักลงทุนญี่ปุ่นมองเห็นศักยภาพของไทย และสนใจเข้ามาลงทุน เช่นเดียวกับฮ่องกงที่ให้ความสนใจมาลงทุนใน Start up และ SMEs ไทย เพราะเชื่อว่าไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่มีศักยภาพได้ ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กำลังศึกษารูปแบบของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF ที่เหมาะสม ซึ่งมีหลายรูปแบบในการพิจารณา โดยคาดว่าจะนำเสนอให้ตนได้รับทราบในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะการจัดตั้งกองทุนหุ้นยั่งยืนของประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่ สศค.ต้องนำมาพิจารณาด้วยเช่นกัน

               "มันมีหลายรูปแบบที่เราต้องดู ก็จะดูว่าถ้าใช้แบบเดิม การลงทุนในกองทุนจะต้องเป็นแบบไหน หรือถ้าจะปรับเปลี่ยน มันจะต้องเป็นอย่างไรถึงจะเหมาะสม" นายอุตตมกล่าว