ไบโอฟาร์มวาดแผน3ปี ขึ้นแท่น‘รีจินัล คัมปะนี’
“ไบโอฟาร์ม” เปิดยุทธศาสตร์สู่ “รีจินัล คัมปะนี” ปูพรมเสริมแกร่งแบรนด์ครบวงจร ผนึกพันธมิตรสยายปีกรับการเติบโตในกลุ่มประเทศแถบอาเซียน พร้อมเสริมเดินหน้าสู้ตลาดยาอินเดีย จีนทะลักวางเป้า 3 ปี ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ในไทย
นายอรรณพ มโนมัยวิบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ยุทธศาสตร์การดำเนินงานของบริษัทนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม การแข่งขัน และเทรนด์สังคมผู้สูงวัย โดยเฉพาะในส่วนของตลาดต่างประเทศจะเร่งผลักดันการเติบโต การสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้วยการโฟกัสการทำตลาดเข้าไปยังประเทศในกลุ่มซีแอลเอ็มวีมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการก้าวสู่บริษัทระดับภูมิภาค (รีจินัล คัมปะนี) ในช่วง 3 ปีนับจากนี้ เนื่องจากมองว่าซีแอลเอ็มวีถือเป็นตลาดที่มีพัฒนาการมีมาตรฐานมากขึ้น ทั้งระบบขนส่ง กฎหมาย โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จากในอดีตที่เป็นรูปแบบการค้าผ่านชายแดน นอกจากนี้ยังมีอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ที่บริษัทจะเดินหน้าทำตลาดสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง จากปัจจุบันที่มีการวางจำหน่ายในกว่า 15 ประเทศทั่วโลก
โดยยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย 1. การปรับความคิดหรือ Mind Set ของคนในองค์กรที่ต้องไปในทิศทางเดียวกันมีเป้าหมายเหมือนกัน 2.การมีพาร์ตเนอร์ที่มีความคิดเห็นตรงกันในการวางกลยุทธ์การตลาดที่สอดคล้องกัน 3.การให้ความสำคัญกับการเพิ่ม มูลค่าของสินค้า (Value Added) เพื่อให้สินค้ามีความแตกต่างจาก รายอื่น ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งแปลก ใหม่ในโลก โดยที่ผ่านมาบริษัทร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในการค้นคว้าวิจัย ในการเพิ่มมูลค่าของสินค้า รวมถึงการสร้างเรื่องราว (Story) ให้กับแบรนด์เพื่อสร้างการรับรู้ การจดจำให้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้บริษัทจะมุ่งสร้างตราสินค้า Thailand Brand หรือตราสัญลักษณ์สินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับด้วยการจัดพอร์ตชื่อสินค้าที่อยู่ภายใต้ไบโอฟาร์มให้เป็นที่รู้จักในชื่อเดียวกัน จากเดิมที่ชื่อแตกต่างออกไปตามกฎ หมายของแต่ละประเทศ พร้อมกับสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ผ่านคุณภาพที่ดี ควบคู่กับการสื่อสารถึงระบบหลังบ้านที่มีคุณภาพมาตรฐาน โดยเริ่มจากแพ็กเกจจิ้งที่ดี เพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภค และต่อยอดสู่การเป็นองค์กรที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
อรรณพ มโนมัยวิบูลย์
สำหรับตลาดยาในประเทศ จะมุ่งขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุม และการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมกับการขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมและสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่มีช่องทางการขายในโรงพยาบาลเป็นหลัก ส่วนที่เหลือเป็นร้านของยา โมเดิร์นเทรด และอี-คอมเมิร์ซ
นายอรรณพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะที่นโยบายThai Medical Hub ที่รัฐบาลประกาศต้องยอมรับว่าเอื้อต่อธุรกิจโรงพยาบาลที่พยายามดึงเม็ดเงินจากกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งเป็นนโยบายที่ดี แต่ยังไม่ได้มีการผสานโจทย์ดังกล่าวเข้ากับอุตสาหกรรมยา กล่าวคือแม้จะมีคนไข้เข้ามากว่า 10 ล้านคนต่อปี แต่ยาที่ได้รับอานิสงส์จะเป็นยานอกทั้งหมด ตรงนี้จึงเป็นคำถามว่าทำไมไม่ใช้ยาในประเทศ ทำไมไม่นำยาที่มีคุณภาพมาตรฐานภายในประเทศเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งจะช่วยให้อุตสาหกรรมยาไทยได้เติบโตในตลาดโลกผ่านลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะประชาชนใน CLMV ที่เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลในไทยจำนวนมาก
ปัจจุบัน “ไบโอฟาร์ม” มีการทำตลาดผลิตภัณฑ์ใน 7 กลุ่ม ได้แก่ 1.Carbapenem 2.Thermal sterile 3.ยาเม็ด 4.ยานํ้า 5.Cephalosporin 6.ยาฮอร์โมน 7.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยวางเป้าหมายระยะยาวช่วง 3 ปีนับจากนี้ (ปี 2562-2564) ในการขึ้นเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในตลาดเมืองไทยทั้งในแง่การส่งออกและภายในประเทศ จากปัจจุบันที่เป็นผู้เล่นเบอร์ 3-4 พร้อมก้าวสู่ รีจินัล คัมปะนี ขณะที่อุตสาหกรรมยาในเมืองไทยมีการเติบโตเฉลี่ย 5-7% ต่อเนื่องติดต่อกันมา 5 ปี
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3497 ระหว่างวันที่ 18 - 21 สิงหาคม 2562